ประชุมกรรมการบริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ดกกท.) ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเป็นประธาน เรื่องใหญ่ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการสรรหาตำแหน่งรองผู้ว่าการ 2 ตำแหน่งว่าใครจะขึ้นมา ในที่สุด ในส่วนของตำแหน่งรองฝ่ายกีฬา อาชีพและกีฬามวย “บิ๊กน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ก็ขึ้นชั้นมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ตามที่คาดหมาย ส่วนรองฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ “ตั๋ว” โปรดปราณ สมานมิตร จากที่เคยนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ สำนักผู้ว่าการ ก็ขึ้นชั้นมาได้ในที่สุด
ซึ่งก็ถือว่าทั้ง 2 คนชื่อชั้นประสบการณ์ไม่ขี้เหร่ อาจจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา นั่นก็สุดแล้วแต่มุมมองและความเห็นของตัว บุคคล ทุกอย่างวันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนผู้ที่พลาดหวังในรอบนี้ยังมีลุ้นในช่วงปลายปี (ตุลาคม) อีก 2 เก้าอี้ที่จะว่างลง จากรองฯ รุจ แสงอุดม และรองฯ ราเชลล์ ได้ผลธัญญา
ไทยลีก ปิดฉากไปแล้ว ตราด เอฟซี กับ ระยอง เอฟซี คือ 2 ทีมฝั่งตะวันออกที่ตกชั้นไปก่อน และ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี คือทีมสุดท้ายที่ตกชั้นในวันสุดท้ายของแมตช์ปิดฤดูกาล หลังพ่าย ให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ไปหวุดหวิด 0-1 ประตู ทั้งๆ ที่เล่นแค่เสมอก็ได้อยู่ต่อในไทยลีก งานนี้ประธานที่ปรึกษาใหญ่ รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน คงต้องรีบแก้วิกฤตกลับมาเป็นโอกาสให้ไว ถ้ายังแบ่งรับแบ่งสู้อย่างนี้เดี๋ยวจะเหมือนหลายๆ ทีมที่เคยเล่นไทยลีกแล้วยังไม่มีโอกาสกลับมาขึ้นมา
ส่วน 2 ทีมที่ขึ้นมาแทนที่แน่นอน แล้วคือ หนองบัวพิชญ เอฟซี กับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด “นายกกร๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร แต่งตัว และกำลังส่องกล้องให้นักเตะเกรดดีมีคุณภาพ มาเสริมทัพกันยกใหญ่ ข่าวว่า จอห์น บาจโจ ศูนย์หน้ามะขามข้อเดียวของสุโขทัยเป็นอีก ตัวเลือกที่อยากได้มาเสริมทัพแน่นอน
โอลิมปิก 2020 (2021) ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แม้จะไร้ต่างชาติเดินทางไปชมเชียร์นักกีฬาชาติตัวเอง ประเทศไทยความหวังคงหนีไม่พ้นแค่ 3 สมาคมกีฬาคือ มวยสากล, เทควันโด และแบดมินตัน โดยเฉพาะ “กีฬาลูกขนไก่” ที่มี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นั่งกุมบังเหียน หมายมั่นปั้นมือจะสร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าเหรียญอะไรก็ได้สักครั้งในกีฬาโอลิมปิก ส่วนอีกสมาคมกีฬาแม้จะยากเย็นแสนเข็ญ “จักรยาน” ของ “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี แม้โอกาสจะมีน้อยนิดแต่ใช่จะไม่มีของพรรค์อย่างนี้อะไร ก็เกิดขึ้นได้เสมอกับเกมกีฬา
ถามว่านี่เป็นผลงานของ “บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณี ใช่หรือไม่กับการทำทุกวิถีทางของช่อง “ทีสปอร์ต” ที่ทำให้ประชาชนมีโอกาสได้ดูกีฬาดีในระบบดิจิตอล (HD) ล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงมติให้ช่องทีสปอร์ตมาอยู่ใน (ช่อง 7) โดยจะเริ่มทดลองออกอากาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน
ถ้าทุกอย่างลงตัวและ เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือเน้นความเป็นช่องกีฬา 80% ท่องเที่ยว 20% อีกไม่นาน คนกีฬาคงจะได้รับชมกีฬาดีๆ อย่างเต็มอิ่มแน่นอน ก็ได้แต่หวังว่า ผู้ว่าฯ ก้องศักด จะทำและพัฒนาแบบเต็มสูบจริงๆ จังๆ
แดง ตานี
Surasak30@hotmail.com