คณะกรรมาธิการกีฬาพัฒนามวยไทย ผลักดันให้มีการสอนให้ได้มาตรฐาน

วันพฤหัสบดี ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา (สมาชิกวุฒิสภา) ผู้จัดทำโครงการเกี่ยวกับมวยไทยเพื่อเยาวชน ผลักดันให้มวยไทยเข้าสู่ขบวนการฝึกสอนให้ได้มาตรฐานเพื่อพัฒนาเข้าสู่ความเป็นกีฬาอาชีพที่ทั่วโลกยอมรับ ได้กล่าวถึงความสำคัญของมวยไทยว่าศิลปะมวยไทย เป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่ามาช้านาน จึงควรมีการฝึกสอนให้ได้มาตรฐาน และเป็นประโยชน์ในการที่จะรักษาองค์ความรู้นี้ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นอาชีพ หรืออาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านมวยไทย เช่น ครูมวยเทรนเนอร์ เจ้าของค่ายมวย โรงยิมฯ ในการฝึกซ้อมหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับมวยจนสามารถพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมได้

ในวันนี้ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านการกีฬา ทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ มีบทบาทหน้าที่

ในการพิจารณาศึกษาเรื่องต่างๆ เห็นว่ามวยไทยมีคุณค่าและมีประโยชน์ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น จึงมีข้อเสนอในที่ประชุมกรรมาธิการถึงปัญหาบางอย่าง เช่น ปัญหาการพนัน ปัญหามวยเด็ก และปัญหาการร้องเรียนต่างๆ ที่สุด ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานที่เรียกว่า “คณะทำงานขับเคลื่อนกีฬามวยไทย” ขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2564 เพื่อศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง รอบคอบ และรอบด้านและได้ดำเนินการต่อเนื่องมา


พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้กล่าวถึงการทำงานของคณะทำงานดังกล่าวว่า เราจะพิจารณาในเรื่องการขับเคลื่อนมวยไทยในสามมิติ คือ เพื่อการแข่งขัน เพื่อการศึกษา และเพื่อการอนุรักษ์ในมิติเพื่อการแข่งขัน เราพิจารณาในประเด็นย่อยๆเช่น เรื่องของการตัดสินการแข่งขัน การบริหารจัดการ องค์กรที่จะรับผิดชอบ การบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ หรือการดูแลสวัสดิภาพ และการพัฒนานักกีฬา ส่วนที่เป็นมิติเพื่อการศึกษา ซึ่งเกี่ยวเนื่องโดยตรงในประเด็นของ มวยไทยเพื่อเยาวชน ก็มีการพิจารณาในเรื่องว่า จะทำอย่างไรให้เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับหน่วยงานทางฝ่ายบริหารได้ดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดทำหลักสูตร และเรื่องการจัดการเรียนการสอน ในส่วนของมิติของการอนุรักษ์ก็พิจารณาในเรื่องส่งเสริมสนับสนุนให้มวยไทยเป็นมรดกโลก หรือการจัดตั้งศูนย์มวยไทยส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะมีการอนุรักษ์คุณค่าในองค์ความรู้นี้ไว้ โดยรวบรวมเป็นเอกสาร หรือตำราอย่างเป็นระบบ

สำหรับ “มวยไทยเพื่อเยาวชน” นั้นพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าคือการที่จะพิจารณาในเรื่องของข้อเสนอในการที่จะทำให้มีนโยบายที่จะให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนในรายวิชาในเรื่องของมวยไทย หรือการพัฒนาหลักสูตร รวมทั้งการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นในหมู่ของเยาวชนให้แพร่หลายทั่วไป คณะทำงานมองเห็นถึงความสำคัญ จึงพยายามที่จะทำอย่างไรให้มวยไทยเข้าไปอยู่ในหลักสูตร ในสถานศึกษา หรือในวิชาการเรียนการสอน

“มวย เป็นศิลปะการต่อสู้ เป็นกีฬา และสามารถพัฒนาสู่ความเป็นอาชีพได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ต่อสังคม และต่อประเทศชาติต้องช่วยกันรณรงค์ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง หวังให้หน่วยงานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งแม้จะต่างคนต่างมีบทบาทหน้าที่ของตนแตกต่างกันไป ซึ่งผมก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการรณรงค์ และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ในการอนุรักษ์ พัฒนา ส่งเสริม และเผยแพร่ในเรื่องมาตรฐาน ให้กีฬามวยไทยเป็นที่ยอมรับได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สิ่งเหล่านี้เป็นพลังอำนาจทางวัฒนธรรมของไทย เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ เป็นเครื่องมือทางสังคมในการกล่อมเกลาเยาวชน ให้มีคุณธรรม มีหัวใจของนักกีฬา ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ความดีงามต่อไป” พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้กล่าวทิ้งท้าย