ในขณะที่วงการกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกต่างยกย่องและทึ่งกับสถิติของนักมวยไทยที่ชกกันระดับ 100-200 ร้อยไฟต์ ทั้งที่ยังเป็นเยาวชนอยู่ด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยผู้คนสามารถเข้าถึงมวยไทยได้อย่างง่ายดายแบบไร้อุปสรรค
ทว่าในต่างประเทศ การที่จะได้เรียนรู้มวยไทย ศาสตร์แห่งการต่อสู้ที่ดีที่สุดของโลกกลับเป็นเรื่องสุดยากเย็น บางคนถึงขึ้นข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเมืองไทยเพื่อเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย
นักมวยไทยชาวต่างชาติส่วนใหญ่จึงเริ่มต้นเส้นทางอาชีพได้ช้ากว่านักมวยไทยบ้านเรา หนึ่งในนั้นก็คือ “เดซิรี่ โรวิร่า” (Desiree Rovira) หรือ “เดซิเร่ โรวิร่า” (ถ้าออกเสียงแบบภาษาสแปนิช) สาวแกร่งจากแดนกระทิงดุ ที่เพิ่งเริ่มชกมวยอาชีพตอนอายุ 30 ปี
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า อายุ 30 ปี เพิ่งเริ่มชกมวยไทยมันไม่ช้าไปหน่อยหรือ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ต้องคิดอย่างนั้น แต่ตัวของ เดซิรี่ กลับเห็นต่าง เพราะชีวิตของเธอผ่านอะไรมามากมาย และสิ่งสุดท้ายที่เธออย่างจะทำให้สำเร็จนั่นก็คือการเป็นแชมป์เปี้ยนมวยไทยหญิงให้จงได้
พร้อมกับเป็นการสร้างความหวังให้กับคนที่กำลังจะหมดไฟ ทำไมสาวจากแดนกระทิงดุถึงเลือกที่จะมาเผชิญชะตาชีวิตบนผืนผ้าใบ ในประเทศไทยแห่งนี้ จนถูกเลือกเป็น 1 ใน 8 นักชกหญิงกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นชกบนเวทีมวยราชดำเนิน ในการแข่งขัน Rajdamnern World Series
อายุมวย
ก่อนไปอ่านเรื่องราวของ เดซิรี่ เราขออธิบายเรื่องของอายุมวยให้เข้าใจกันก่อน ถ้าจะตอบให้เข้าใจง่ายที่สุดอายุมวยก็คือจำนวนไฟต์ในการชกนั่นเอง
นักมวยไทยส่วนมากเมื่ออายุได้ประมาณ 21-25 ปีมักถูกเรียกว่ามวยแก่ มวยเก๋า ทั้งที่อายุของเขาเพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัวเท่านั้น
ทำไม่ถึงกลายเป็นมวยแก่ไปได้ทั้งที่อายุจริงเพียง 20 ต้น ๆ เอง นั่นเป็นเพราะการกรำศึกหนักมานาน นักมวยบางคนเริ่มขึ้นสังเวียนตั้งแต่ 8-9 ขวบ แม้ว่าอายุจริงจะยังไม่เท่าไหร่แต่อายุมวยกลับใช้มาแบบสุดหฤโหด
ผลที่ตามมาคือยิ่งชกมากร่างกายยิ่งใช้มากและยิ่งบอบช้ำมากเช่นกัน นักมวยบางคนอาจต้องยุติเส้นทางการเป็นพ่อค้ากำปั่นแล้วหันไปทำมาหากินอาชีพอื่นก่อนวัยอันควร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าร่างกายของนักมวยบางคนไม่ได้เกิดมาเพื่อต่อสู้ในระยะยาว และการชกมวยตั้งแต่อายุยังน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าโตมาจะเป็นนักมวยที่แข็งแกร่งกันทุกคน
ในวงการมวยไทยมีความเชื่อกันว่า การเริ่มต้นชกมวยตั้งแต่เด็กจะทำให้พวกเขาเหล่านั้นเติบโตมาเป็นนักมวยไทยที่ดีที่มีทั้งฝีมือ มีความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยม พร้อมเผชิญกับการต่อสู้บนสังเวียนทุกรูปแบบ ซึ่งนักมวยบางคนกว่าจะมีคำนำหน้าว่า นาย พวกเขาเหล่านั้นอาจจะขึ้นสังเวียนมาเป็น 100 ไฟต์แล้วก็ได้
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่นักมวยชาวไทยมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเคยผ่านสมรภูมิและประสบการณ์การชกมาอย่างโชกโชน ตรงข้ามกับนักมวยต่างชาติที่ถึงแม้รูปร่างจะใหญ่กว่า แต่ประสบการณ์เป็นรองคนไทย และต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากหากอยากเป็นนักมวยไทยอาชีพที่ประสบความสำเร็จ
ยิ่งถ้าเริ่มต้นชกครั้งแรกตอนอายุ 30 ปี คงแทบจะเลิกหวังไปเลยว่าจะเป็นนักชกที่ดังได้ … เพราะมันช้าเกินไป
เรื่องราวของเดซิรี่
เดซิรี่ โรวิร่า เป็นสาวจากเมืองกาดิช ประเทศสเปน ชีวิตของเธอแทบไม่ได้แตกต่างจากคนยุโรปทั้วไป คือการมีงานทำที่มั่นคง อยู่ในสังคมที่อุดมไปด้วยความสุข และที่สำคัญเธอมีครอบครัวที่อบอุ่นที่พร้อมจะซัปพอร์ตทุกอย่าง
“ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ ฉันทำงานมาหลายอย่างมาก ทั้งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่ใช้ภาษาสเปน เป็นพนักงานร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ หรือแม้กระทั้งเป็นล่ามภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปนก็เคยทำ แต่สิ่งที่ฉันไม่เคยทำเลยคือการออกกำลังกาย และพื้นฐานการเล่นกีฬาของฉันก็แทบไม่มีเช่นกัน”
“จนกระทั่งวันหนึ่งฉันตัดสินใจลองเข้าฟิตเนสและได้พบกับคลาสสอนมวยไทยในสเปน โดยมี คาร์ลอส คูเอลโญ่ หรือ คาร์ลอส เซเว่นมวยไทย ที่แฟนมวยชาวไทยรู้จักกันดีไปเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ที่นั่น”
“คาร์ลอสเคยมาเรียนและขึ้นชกที่เมืองไทยมาแล้ว ทำให้ฉันได้เรียนรู้มวยไทยจากเขา และสามารถพูดได้เต็มปากว่าครูมวยคนแรกของฉันคือคาร์ลอส ฉันใช้เวลา 1 ปีในการฝึกซ้อม และได้ขึ้นสังเวียนครั้งแรกตอนอายุ 28 ปีในรูปแบบมวยไทยสมัครเล่น”
ทิ้งชีวิตที่สเปนสู่ประเทศไทย
แม้ว่าเดซิรี่จะได้รู้จักกับมวยไทย แต่ทว่าด้วยวัยตอนนั้น 28 ปีทำให้ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคพอสมควร
เพราะการจะเป็นนักมวยไทยในสเปนนั้นไม่สามารถทำให้เธอมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงปากท้องของตัวเองได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เดซิรี่คิดที่จะไปเทิร์นโปรที่เมืองไทย
“ฉันรู้จักค่ายมวยเซเว่นมวยไทยผ่านคาร์ลอส มันทำให้ฉันตัดสินใจที่จะเดินทางมาอยู่ที่เมืองไทยได้ไม่ยาก เพราะที่ค่ายเซเว่นมวยไทยคาร์ลอสเคยมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขาแนะนำให้ฉันรู้จักกับมาเธียส”
“ช่วงแรก ๆ ฉันคิดถึงคนที่บ้านมาก และอุปสรรถอีกอย่างคืออาหารไทยรวมถึงเรื่องเงิน เพราะชกมวยที่ไทยค่าตัวในช่วงเริ่มต้นถือว่ายังไม่สามารถทำให้ฉันดูแลตัวเองได้”
“และฉันก็เจอกับสิ่งที่ยากที่สุดในการฝึกซ้อมมวยไทยนั่นคือตัวของฉันเอง ด้วยความที่ฉันรักมวยไทยและอยากจะทำให้เต็มที่ในทุก ๆ วัน”
“บางเดือนกว่าจะได้ขึ้นชก ไหนจะช่วงลดน้ำหนักอีก มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ฉันรู้ดีว่าฉันเริ่มต้นอาชีพนี้ช้ากว่าคนอื่นหลายก้าว ดังนั้นฉันจึงต้องทำมากกว่าคนอื่น 2 เท่าเสมอ เพื่อการเป็นที่หนึ่งให้ได้”
ไฟต์แรกในวัย 30 ปี
“ฉันได้ขึ้นชกและเทิร์นโปรมวยไทยอาชีพจริง ๆ ตอนฉันอายุ 30 ปี และได้รับชัยชนะลงมา มันเหมือนกับฉันกำลังฝันไปที่ฉันสามารถเอาชนะนักมวยไทยบนแผ่นดินไทยได้ในการเริ่มชกมวยอาชีพครั้งแรก ตลอดการชกของฉัน ฉันมีสถิติพ่ายแพ้ไม่มากนัก คู่ต่อสู้ของฉันส่วนใหญ่แม้ว่าอายุจะน้อยแต่ก็มีประสบการณ์บนสังเวียนมากกว่าฉันทุกคน”
“ฉันคิดว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่สวยงาม มวยไทยไม่ได้มีแค่การต่อสู้กันบนเวทีเท่านั้น ชีวิตนอกสังเวียนก็มีเสน่ห์ที่น่าค้นหาเช่นกัน รวมทั้งมวยไทยยังให้ความมั่นใจ แม้ว่าฉันจะมีปัญหาในชีวิตแต่มวยไทยก็ทำให้ฉันสู้ต่อไป มันทำให้ฉันมีวินัยในตัวเอง และที่สำคัญมันได้ทำให้ฉันเป็นที่รู้จักของคนมากขึ้นด้วย”
แม้หลายคนอาจมองว่าช้าเกินไป แต่เดซิรี่ก็พิสจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า “เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ไม่มีคำว่าสายเกินไป”
เธอมองว่าแม้ตอนนี้เธออายุ 33 ปีแล้ว แต่ความท้าทายของตัวเองในด้านมวยไทยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น สวนทางกับมนุษย์บางคนในวัยเดียวกับเธอที่หมดไฟหมดกำลังใจที่จะดำเนินชีวิตต่อ
ยิ่งมนุษย์เงินเดือนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในเมืองกรุง แค่จะะทำงานให้เวลาหมดเดือนยังยาก แต่กับตัวของเดซิรี่ ทุกวันที่เธอได้ซ้อมมวยมันเหมือนทุก ๆ วันของเธอเป็นวันแสนพิเศษ
“ฉันอยากจะบอกกับทุกคนว่าไม่มีสิ่งไหนที่พวกเราทำไม่ได้ อยากจะให้ทุกคนกำหนดเป้าหมายให้ตัวเอง มีความตั้งใจ และเชื่อใจในตัวเองว่าจะไปให้ถึง”
“แม้ว่าฉันจะมีอายุในการเริ่มต้นชกมวยที่ช้ากว่าคนอื่น แต่ฉันเชื่อว่าความพยายามของฉันก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน”
ด้าน มาเธียส เซเว่นมวยไทย นักมวยไทยชาวอิตาลีเพื่อนร่วมค่ายของเดซิรี่พูดถึงเธอว่า “ผมใช้ชีวิตและเรียนรู้มวยไทยมามากกว่า 10 ปี เพิ่งจะไม่กี่ปีนี้เองที่ผมสามารถออกอาวุธมวยไทยได้เป็นธรรมชาติเหมือนกับนักมวยไทยคนอื่น ๆ”
“แต่กับเดซิรี่ที่ใช้เวลาเพียง 2-3 ปีกลับทำได้ดีเกินคาด ผมคิดว่าอายุของเธอเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ความมุ่งมั่นตั้งใจต่างหาก ที่จะทำให้เธอสามารถประสบความสำเร็จได้ในอนาคต”
“ตอนแรกผมก็แปลกใจเหมือนกันที่คนอายุมากจะมาขึ้นชกมวยไทย ตามความคิดของผมนักมวยไทยต้องเริ่มหัดมวยตั้งแต่ 8-10 ปี แต่เดซิรี่ทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดนี้ไป”
“ผมคิดว่าตัวเธอมีความสามารถพิเศษที่แม้แต่ตัวเธอเองก็เพิ่งรู้ ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถต่อยมวยไทยได้แข็งแกร่งภายใน 2-3 ปี มันยากจริง ๆ นะที่จะได้พบเจอคนแบบนี้ ประกอบกับตัวเธอเองเป็นคนที่มีความขยันด้วยก็ยิ่งทำให้เธอพัฒนาการชกได้เร็วมากกว่าคนปกติ” มาเธียส เผย
ชีวิตของเดซิรี่จึงน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับใครอีกหลาย ๆ คนที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในวัยใกล้เลข 3 และบางคนก็อาจกำลังเจอกับวิกฤตวัยกลางคน เธอยิ้มแล้วฝากประโยคที่จุดเชื้อไฟในตัวทุกคน “อย่าเพิ่งหมดความหวังและท้อแท้กับชีวิต ขอให้สู้ต่อไป เหมือนที่เธอยังคงพยายามต่อสู้บนเวทีมวยไทย”
“ฉันอยากให้คนที่กำลังท้อแท้กับชีวิตดูฉันเป็นแบบอย่าง ฉันเชื่อว่าการที่ฉันได้ลงมือทำ สุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้เริ่มทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นไปไม่ได้”
หญิงสเปนคนแรกบนเวทีมวยราชดำเนิน
หลังผ่านการชกมวยไทยในประเทศไทยจนเริ่มสร้างชื่อได้ในระดับหนึ่ง “เดซิรี่” ก็ถูกเลือกเป็น 1 ใน 8 นักมวยไทยหญิงชุดแรกในรอบ 77 ปีที่ได้แข่งขันบนเวทีมวยราชดำเนิน ในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ รุ่น 112 ปอนด์
เมื่อเธอได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 8 นักชกหญิงที่เข้ามาร่วมการแข่งขันรายการ RWS เธอบอกว่ารู้สึกดีใจมาก ๆ ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เนื่องจากเป็นรายการใหญ่
และที่สำคัญเธอจะถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของเวทีราชดำเนินว่าเป็นมวยหญิงชุดแรกที่ได้ต่อยบนเวทีแห่งนี้ นี่คือความฝันของเธอ ซึ่งเธอรู้ดีว่าการที่ผู้หญิงจะขึ้นชกบนเวทีมาตรฐานของเมืองไทยเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก
โดย เดซิรี่ มีคิวประเดิมชกไฟต์แรกวันที่ 12 สิงหาคม 2565 พบกับ โสมรัศมี มานพยิม คู่ปรับเก่า ที่เพิ่งชกกันมาที่เชียงใหม่
“ฉันเพิ่งชกกับโสมรัศมีไปเมื่อไม่นานมานี้ในการชิงแชมป์มวยเวทีท่าแพ จ.เชียงใหม่ วันนั้นฉันมีเวลาเตรียมตัวน้อยฉันเลยแพ้ไป แต่คนดูก็ปรบมือให้กับเราทั้งคู่ เพราะว่าเราต่อยได้สนุก การพบกับโสมรัศมีอีกครั้งฉันมั่นใจว่าฉันจะสามารถเอาชนะได้ การชกครั้งนี้ฉันมีเวลาเตรียมตัวเต็มที่ และเป็นการชกรูปแบบ 3 ยกที่ฉันถนัด”
“ในการชกครั้งนี้แน่นอนว่าฉันจะต้องเป็นแชมป์ให้ได้ นักชกทั้ง 7 คนเป็นนักชกที่เก่ง แต่ฉันมั่นใจในการฟิตซ้อมของฉัน นี่คือความฝันสูงสุดของฉัน นั่นคือการเป็นแชมป์มวยหญิงของเวทีมาตรฐาน”
“ฉันอยากให้ผู้คนยอมรับในมวยหญิงให้มากกว่านี้ ฉันมีความรักมวยไทย มวยไทยไม่ได้เป็นแค่กีฬาแต่มันยังรวมถึงความงดงามของวัฒนธรรม ประเพณี ความสวยงามของการไหว้ครู เครื่องแต่งตัว ผ้าประเจียด มงคลที่สวม สิ่งเหล่านี้มีความงดงามมาก”