“เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา เปิดใจพยายามสู้กับกำปั้นคิวบาอย่างสุดความสามารถแล้ว ก่อนจะพ่ายแพ้หวุดหวิดในบั้นปลาย เผยไม่เสียใจ เพราะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว โดยเจ้าตัวกล่าวขอบคุณครอบครัวและคนไทยที่คอยให้กำลังใจเสมอมาทั้งในวันที่ชกชนะและพ่ายแพ้ ก่อนประกาศแขวนนวม อำลาทีมชาติทั้งน้ำตา
ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี กำปั้นวัย 36 เปิดใจหลังพ่ายให้กับกำปั้นชาวคิวบาไปอย่างหวุดหวิด 2-3 เสียง ตกรอบ 8 คนสุดท้าย มวยสากลโอลิมปิก รุ่น 57 กก.ชาย และชวดการคว้าเหรียญทองแดงไปอย่างน่าเสียดาย ว่า “ไม่มีอะไรต้องพูด ตนสู้อย่างเต็มที่ สุดความสามารถแล้ว ทั้งตนและคิวบาต่างเป็นมวยที่มีชั่วโมงบินและประสบการณ์ใกล้ๆกัน ผ่านโอลิมปิก 3 ครั้งมาเท่ากัน ด้วยความเป็นคิวบา เราเองยังชกยากอยู่ ทำสุดความสามารถและเต็มที่แล้ว
“ยกแรกที่คะแนนตามอยู่ 2-3 ทางสต๊าฟโค้ชก็บอกว่าเรายังมีโอกาส ก็ให้ชกเหมือนเดิมไปก่อน ผมก็พยายามดู คิด แก้เกมตลอด อย่างที่บอกว่าเขามีประสบการณ์เยอะ ยิ่งเวลาที่มวยมันสูสี ถ้าคนใดคนหนึ่งเดิน เสียทรงมวย ก็จะเสียคะแนนได้ ส่วนยก 3 ผมก็ฮึดเต็มที่แล้วครับ ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ต่างคนต่างก็รอ เขาก็รอให้เราหลุด เราก็รอให้เขาหลุด สำหรับผมไม่เสียใจครับ ก็ถือว่าได้สู้อย่างเต็มที่ สุดความสามารถแล้ว”
“เจ้าสด” ยังกล่าวในตอนท้าย ขอบคุณครอบครัวที่สนับสนุน อยู่เคียงข้าง และเป็นกำลังใจให้ตนเองเสมอมา เมื่อถูกถามว่าทัวน์นาเมนต์นี้เป็นรายการสุดท้ายที่จะรับใช้ชาติด้วยหรือไม่ ฉัตร์ชัยเดชา ได้ตอบกลับมาพร้อมน้ำตาว่า “พอแล้วครับ ภูมิใจกับตัวเองที่อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยมีความสุข และก็ให้เขาได้เชียร์ผมเวลาผมแข่งขัน ให้เขาได้มีความสุขในวันที่ผมชนะ และก็ยังเป็นกำลังใจให้กับผมในเวลาที่ผมแพ้”
ขอขอบคุณ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้สนับสนุนด้านอาหารและการสื่อสารนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการในการแข่งขันโอลิมปิก-พาราลิมปิกเกมส์ 2020 #คนไทยหัวใจนักสู้ #ไม่มีอะไรที่เราชนะไม่ได้ เมื่อเราสู้ไปด้วยกัน