ต้องเปลี่ยนวิธีใหม่

เชื่อว่านักชกหลายคนไม่ว่าไทยหรือเทศต่างก็มุ่งมั่นและตั้งความหวังไว้สูงว่าจะต้องคว้าโควตาไปลุยโอลิมปิกเกมส์ 2020 จากเลกสุดท้ายให้ได้

ยิ่งกำหนดการการแข่งขันเลื่อนจากเดิมมาเป็นปีนี้ เชื่อว่าหลายคนก็หมายมั่นปั้นมือกับการคัดเลก 2 ที่เป็นความหวังสุดท้าย

พอคณะกรรมการจัดการแข่งขันมวยสากลของไอโอซีมีมติยกเลิกการแข่งขันเชื่อว่าทำให้นักมวยหลายคนเหวอไปแน่นอน เพราะความหวังสุดท้ายหมดไปแล้ว

แม้ว่าทาง “ไอโอซี” จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดสรรโควตาที่เหลืออยู่ทั้งชาย-หญิง 53 คน เป็นชาย 32 คน และหญิง 21 คน ให้ครบตามจำนวนด้วยการดูผลงานของนักชกในแต่ละรุ่นจากการแข่งขันรายการต่างๆก็ตาม พร้อมกับยืนยันว่าจัดสรรโควตาอย่างเป็นธรรมและได้สิทธิ์เท่าเทียมกันก็ตาม

แต่หลายคนรู้ตัวเองดีกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว และจะไปลุ้นการจัดสรรโควตาของไอโอซีดูแล้วมันเลือนรางเต็มที

ที่ผ่านมาก็มีนักชกหลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ แต่กลับสมหวังในการคัดเลกก็มีให้เห็นเยอะไป

ดังนั้น หากจะจัดสรรด้วยผลงานที่ผ่านมา เอาแค่หลักการเชื่อนักชกหลายคนก็ทำใจไว้แล้ว

อย่างว่าใครจะไปคาดเดาหรือรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นจนทำให้ทั่วโลกปั่นป่วนไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ตามแผนที่วางไว้

การระบาดของไวรัสโควิดครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทั่วโลกต้องจดจำไปอีกนาน เพราะทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักและเสียหายไปหมด

เพียงแต่ว่าจากนี้ไปควรจำเหตุการณ์นี้ให้แม่นยำว่าควรต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่

โดยเฉพาะการคัดโควตาโอลิมปิกเกมส์ของทุกชนิดกีฬา ควรวางแผนหรือจัดเกมการแข่งขันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อยน่าจะได้ข้อสรุปว่าใครได้โควตาก่อนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์สัก 6 เดือน

ลองคิดดูถ้าเราได้ข้อสรุปตั้งแต่เนิ่นๆ หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกหรือมีอย่างอื่น ก็จะได้ไม่กระทบต่อนักกีฬาจนทำให้เสียสิทธิ์เหมือนครั้งนี้

ตอนนี้มวยสากลยกเลิกการคัดโควตาเลก 2 ไปแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าระยะเวลาต่อจากนี้จะมีกีฬาประเภทไหนที่ยกเลิกอีกหรือเปล่า

เพราะเท่าที่ดูการแพร่ระบาดของโควิดยังไม่หยุดนิ่งเลย แถมหลายชาติก็ยังสาหัสจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้

เชื่อว่าโอลิมปิกเกมส์ 2020 จะเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนนักกีฬาไม่เหมือนเดิม

คิดแล้วก็เห็นใจนักชกของไทยจริงๆ.

ตองเจ