“น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี มวยสากลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งทำผลงานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ มวยสากลในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ “โตเกียว 2020” ให้สัมภาษณ์ว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้น มาจาก บิดาที่เคี่ยวเข็นให้ชกมวยสากล
“น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ทำผลงานในรอบ 8 คน สุดท้าย มวยสากลในกีฬาโอลิมปิก จากการเอาชนะนักมวยจากสหราชอาณาจักร โดยชนะไป 3-2 เสียง ทำให้ ผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้าย เท่ากับว่ามีเหรียญทองแดง รองรับไว้แล้ว( ในเบื้องต้น)
“ตอนที่กรรมการผายมือมาที่หนูให้หนูชนะ หนูดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ มันเป็นความฝันของหนู นาทีนั้นคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ ซึ่งถ้าไม่มีพ่อ หนูเองก็คงไม่มีวันนี้ เพราะพ่อเป็นคนบังคับให้หนูต่อยมวย หนูอยากจะบอกว่า หนูทำได้แล้ว ถ้าพ่อยังรับรู้ หนูขอให้พ่อภูมิใจในตัวหนูนะค่ะ หนูทำวันนี้ได้แล้ว สิ่งที่เสียดายและคิดอยู่ตลอด คือการที่พ่อไม่ได้อยู่เห็นความสำเร็จ พ่อเสียไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว” “น้องแต้ว” ระบุ
“น้องแต้ว” สร้างประวัติศาสตร์ให้ทีมมวยสากลในกีฬาโอลิมปิก จากการเอาชนะแคโรไลน์ ดูบัวส์ ดาวรุ่งจากสหราชอาณาจักร เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ มวยสากล รุ่นไลท์เวท 60 กิโลกรัม โดยรอบรองชนะเลิศจะพบกับ เคลลี่ แอน แฮร์ริงตัน เต็งหนึ่งดีกรีแชมป์โลกจากไอร์แลนด์ ในวันที่ 5 สิงหาคม
ขณะเดียวกัน จากการทำผลงานเหรียญทองแดง ทำให้ “ น้องแต้ว” สุดาพร ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและสวัสดิการนักกีฬา จากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก้อนแรก 4.8 ล้านบาท แต่หากสามารถคว้าเหรียญรางวัลอื่น คือ เหรียญทอง จะรับเงินรางวัล 12 ล้านบาท และเหรียญเงินรับ 7.2 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมเงินอัดฉีด ที่จะมาจากสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย และผู้สนับสนุนอื่นๆ