กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทยสำหรับ “เจ๋ง”ยุทธพงษ์ ศรีละคร แข้งกองหลังวัย 35ปี จาก อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ที่เพิ่งพาทีม “พญาไก่ชน”หนองบัวพิชญ เอฟซี คว้าแชมป์ไทยลีก2 ฤดูกาล 2020 -21 เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก1 ได้สำเร็จ พร้อมกับพาสโมสรสร้างประวัติศาสตร์ได้เป็นครั้งแรกในการโลดแล่นบนลีกสูงสุด แต่ “เจ๋ง”กลายเป็นนักมวยไทยชื่อดังที่สร้างสถิติสำคัญกับวงการฟุตบอลไทยด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดถึง 3ครั้งจากการลงสนามแข่งขันจริงต่อเนื่องในฐานะแกนหลักของ 3 สโมสร
โดยครั้งแรกพาทีม สระบุรี เอฟซี เลื่อนชั้นในปี 2015 ในยุคของ “โค้ชแบน”ธชตะวัน ศรีปาน คุมทัพ หลังจากนั้นโยกมาช่วยสุโขทัย เอฟซี ในช่วงเพลย์ออฟพบกับ นครปฐม พาทีมเลื่อนชั้นในปี 2016 หลังจากนั้นพา “พญาไก่ชน”หนองบัวพิชญ เอฟซี คว้าแชมป์ไทยลีก2 ฤดูกาล 2020 -21 เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก1 ได้อีกทีม ก่อนหน้านี้สถิติการพาทีมเลื่อนชั้นของ “เจ๋ง”ยุทธพงษ์ ศรีละคร เกือบจะเพิ่มปี 4 ครั้งหลังลงเล่นให้กับศรีสะเกษ เอฟซี ในปี 2019 แม้ “กูปรีอันตราย”จะโดนตัดแต้มแต่ก็สู้จนเกือบเลื่อนชั้นจบฤดูกาลมีแต้มตามหลังระยองเอฟซี ทีมอันดับ 3เพียง 2 แต้ม
ชีวิตการต่อสู้ของแข้งรายนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะเดิมทีชีวิตวัยเด็กฝากความฝันกับการชกมวย จนกลายเป็นนักมวยชื่อดังภาคอีสาน ภายใต้ชื่อ มะนาวหวาน ศิษย์จ่าเส็ง,น้องเก๋ง ส.สมบูรณ์,ยอดแสนชัย โรงเรียนกีฬานครสวรรค์,เสือขาว ลูกพระบาท รับค่าชกต่อไฟต์ประมาณหลักหมื่นพร้อมกับกลายเป็นมวยเดิมพันระดับหลักแสน จากเส้นทางของนักมวยไทยสู่มวยสากลสมัครเล่นเพื่อโอกาสในการเป็นนักชกทีมชาติไทยแต่ไปได้ไม่สุด จึงตัดสินใจแขวนนวมมาเล่นฟุตบอลอาชีพได้ค่าเหนื่อยครั้งแรกวันละ 150 บาท สมัยค้าแข้งให้อยุธยา เอฟซี ระดับดิวิชั่น 2 จากนั้นมาก็พัฒนาฝีเท้าจนรับเงินเดือนระดับแสน
“เจ๋ง”ยุทธพงษ์ ศรีละคร แข้งกองหลังวัย 35ปี จาก จ.ขอนแก่น ชีวิตวัยเด็กไม่เคยผ่านการเป็นนักฟุตบอลระดับตัวแทนจังหวัดเล่นเพียงสนุกๆกับเพื่อนๆ เริ่มต้นฟุตบอลจริงจังจริงตอนอายุ 22-23 ปี ช่วงเล่นฟุตบอลคณะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (หันตรา) จ.พระนครศรีอยุธยา มีคนรู้จักชักชวนให้มาเล่นฟุตบอลอาชีพดูก็เลยลองมาทดสอบดูก่อนที่จะได้รับค่าเหนื่อยรายวันพัฒนาฝีเท้าตัวเองมาเรื่อยๆจนสุดท้ายตัดสินใจแขวนนวมมาเริ่มต้นชีวิตฟุตบอลอาชีพแบบจริงจัง
โดย“เจ๋ง”ยุทธพงษ์ ศรีละคร เปิดใจว่า ผมเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพจริงๆตอนอายุ 23 ปี ให้กับอยุธยา เอฟซี ตอนนั้นเขาให้ค่าเหนื่อยผมวันละ 150 บาท จากนั้นมาเขาก็เพิ่มให้เป็นเงินเดือนๆละ 4,000 บาท บวกเบี้ยเลี้ยงซ้อมวันละ 150 บาท มันก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นระดับหนึ่งและก็เริ่มทำให้รู้สึกว่าอยากจะเป็นนักเตะอาชีพพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างรายได้และโอกาสของตัวเอง เมื่อไม่สุดเรื่องของมวยการเริ่มต้นกับฟุตบอลก็อยากพาตัวเองไปให้สุดทาง
Add friend ที่ @Siamsport