สกู๊ปพิเศษ : คีย์แมนมวยสากลไทยระดมพลังดันกำปั้นไทยสู่ ‘อลป.2020’

This image is not belong to us

เส้นทางของกำปั้นไทยไปสู่ “โตเกียว 2020” ในเวลานี้นั้น ต้องถือว่า หนักหนาสาหัสทีเดียว!


นี่เป็นการยืดอกยอมรับของผู้บริหาร สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย รวมทั้งบรรดาสต๊าฟโค้ช และคนทำงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประเมินได้จากผลงานของนักมวยไทยใน 2 รายการใหญ่ที่ผ่านมาไม่นานมานี้

รายการแรก มวยสากลชายชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 20 ซึ่งมีแข่งขัน 8 รุ่น เหมือนกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” นั้น ปรากฏว่า นักมวยชายไทยตกรอบต้นๆ และหนักยิ่งกว่านั้นคือ ไม่มีนักมวยไทยหลงเหลือได้เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 คนสุดท้ายเลยแม้แต่คนเดียว

รายการต่อมา มวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 11 เป็นการแข่งขันถึง 10 รุ่น รวมทั้ง 5 รุ่นที่เป็นน้ำหนักใน “โตเกียว 2020” ปรากฏว่า นักมวยหญิงไทยได้เหรียญรางวัลเพียงคนเดียวจาก จุฑามาศ รักสัตย์ คว้าเหรียญทองแดงได้ในรุ่น 48 กก.ซึ่งไม่มีแข่งขันใน “โตเกียว 2020” ส่วนรุ่นอื่นที่เป็นรุ่นน้ำหนัก “โตเกียว 2020” นั้น มีนักมวยหญิงไทยเพียง 2 คน ที่ติดอันดับ 8 คนสุดท้ายได้ คือ นิลาวัลย์ เตชะสืบ รุ่น 57 กก. และ สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก.

This image is not belong to us

ผลงานดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารสมาคมกีฬามวยสากลฯ ภายใต้การนำของ พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม และ สมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายก และประธานเทคนิคฯลฯ หารือและปรับปรุงแผนทำงานร่วมกับสต๊าฟโค้ชอย่างซีเรียส ด้วยความตระหนักร่วมกันว่า ต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า รวมถึงต้องทำด้วยความรวดเร็วให้ทันสถานการณ์กับความเป็นไปของวงการกำปั้นโลกให้มากที่สุด

หลังจากนี้เป็นต้นไป ทีมมวยสากลไทยทั้งชาย-หญิง มีเป้าหมาย 3 รายการสำคัญ ประกอบด้วย


1.มวยสากล กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ วันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2562


2.มวยสากลรอบคัดเลือก กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 โซนเอเชียโอเชียเนีย ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน วันที่ 3-14 กุมภาพันธ์ 2563

โดยกำหนดโควตานักมวยชาย จากรอบคัดเลือกโซนเอเชียโอเชียเนีย คือ รุ่น 52, 57, 63 กก. รุ่นละ 6 คน รุ่น 69, 75, 81 กก. รุ่นละ 5 คน และรุ่น 91, 91+ กก. รุ่นละ 4 คน นักมวยไทยมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการลุ้นรอบคัดเลือกครั้งนี้ เพียง 4-6 รุ่นน้ำหนัก คือ 52, 57, 63, 69, 75, 81 กก.เท่านั้น

This image is not belong to us

โควตานักมวยหญิง จากรอบคัดเลือกโซนเอเชียโอเชียเนีย คือ รุ่น 51 กก. 1 คน, รุ่น 57, 60, 69, 75 กก. รุ่นละ 4 คน นักมวยไทยมีโอกาส และมีความเป็นไปได้ในการลุ้นรอบคัดเลือกครั้งนี้ เพียง 1-3 คนเท่านั้นเอง


รายการที่ 3 มวยสากลรอบคัดเลือก กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบสุดท้ายระดับโลก ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส วันที่ 13-20 พฤษภาคม 2563

โควตารอบคัดเลือกครั้งสุดท้ายนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) จะประกาศเป็นทางการก่อนประมาณ 30 วัน หลังจากดูจำนวนนักมวยที่ผ่านรอบคัดเลือกจากแต่ละโซน จากแต่ละเงื่อนไขแล้ว จะกำหนดจำนวนการคัดเลือกในแต่ละรุ่นน้ำหนักได้อย่างแน่นอนต่อไป

โดยเฉพาะ “สิทธิพิเศษ” ของเจ้าภาพ-ญี่ปุ่น ที่ได้สิทธิใน “โตเกียว 2020″โดยอัตโนมัติ 6 คน 6 รุ่น คือ ชาย 4 คน/รุ่น, หญิง 2 คน/รุ่น รวมทั้ง “สิทธิพิเศษ” ของนักมวยสากลทั่วโลกอีก 8 คน แยกเป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน ที่ต้องพิจารณากันยาวนานเป็นพิเศษ

“คราวนี้ เราจะพิจารณาคัดเลือกนักมวยไปรอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ ทั้ง 2 ครั้ง แบบละเอียด รัดกุม ไม่มีใครได้สิทธิผูกขาดไปเลยเพียงคนเดียว แต่ทุกรุ่นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะมีตัวเลือกเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งอยู่แล้ว”

This image is not belong to us

นั่นคือประเด็นสำคัญจาก พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ หลังจากการประกาศรายชื่อมวยสากลชาย-หญิง ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ไปแล้ว เป็นการอธิบายเพิ่มเติมว่า นักมวยที่ได้เป็น แชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 จะไม่ได้สิทธิเป็นตัวยืนทีมชาติไทยชุดคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020

พิชัย ยืนยันว่า จะหารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม แผนการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักมวยไทย ทั้งทีมชาย-ทีมหญิง แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกมากขึ้นเท่าใดก็ตาม เพื่อความมั่นใจว่า นักมวยไทยจะมีความพร้อมมากที่สุดในการสู้ศึกรอบคัดเลือก “โตเกียว 2020” ครั้งนี้ เพราะจากการดูเทปมวยสากลชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ทั้ง 2 รายการอย่างละเอียดแล้ว พบว่า นักมวยต่างชาติโดยเฉพาะรุ่นพิกัดเป้าหมายเดียวกับนักมวยไทยนั้น มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดอย่างน่าทึ่ง

ด้าน สมชาย พูลสวัสดิ์ อุปนายกและประธานเทคนิคของสมาคมกีฬามวยสากลฯ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือพูดคุยกับคณะนักมวยและสต๊าฟโค้ชอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับกระตุ้นให้ทุกคนยอมรับในความเป็นจริง จากผลการแข่งขันที่ผ่านมา โดยไม่มีการอ้างเอาว่า ระบบการตัดสิน เป็นการแก้ตัวโดยเด็ดขาด

“ผมได้เน้นกับ ฮวน ฟอนตาเนียล ในฐานะหัวหน้าโค้ชไปแล้วว่า เราต้องปรับปรุงด้านเทคนิค ด้านความแข็งแกร่งเพิ่มเติมให้เร่งด่วนที่สุด เพราะเรามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ต้องการอะไรเพิ่มเติม ให้เสนอมาโดยด่วน สมาคมพร้อมลงทุนให้เต็มที่ เพื่อช่วยกันทำผลงานให้ดีที่สุด ให้ได้”ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลฯ กล่าวย้ำ

This image is not belong to us

ด้าน พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนจากโรงพยาบาลตำรวจ ในการจัดทีมคณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมเป็นทีมงานของคณะนักมวยสากลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งระบบการรักษาพยาบาล และการบำบัดทุกด้าน ทีมงานชุดนี้ เริ่มปฏิบัติงานร่วมกับทีมชาติไทยในมวยสากลชิงแชมป์โลก 2019 เป็นต้นมา

“นอกจากนี้ ฝ่ายต่างประเทศของเราได้ประสานงาน ติดต่อกับกลุ่มชาติเป้าหมายระดับโลกหลายชาติ ในการส่งทีมไทยไปฝึกซ้อมแข่งขันเพิ่มเติม และเชิญต่างชาติชั้นนำมาฝึกซ้อมแข่งขันรายการพิเศษในเมืองไทย เพื่อสร้างความตื่นตัวให้กับนักมวย และโค้ชของไทยให้มากขึ้น”

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า มีการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเพิ่มเติม ในการแสวงหาข้อมูลของนักมวย และผู้ตัดสินนานาชาติ ที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ การกำหนดแผนงานของทีมไทย ร่วมกับสต๊าฟโค้ชไทยด้วยเช่นกัน

นี่เป็นความเคลื่อนไหวของทีมมวยสากลไทยซึ่งเป็นสมาคมความหวังลำดับต้นๆ ของไทยใน “โตเกียว 2020″…

This image is not belong to us