สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กำหนดส่ง 4 นักมวยชายทีมชาติไทย ไปร่วมการแข่งขัน มวยสากลชายชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ของ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ AIBA ที่เมืองเยคาเทรินเบิร์กของรัสเซีย ระหว่างวันที่ 7-21 กันยายน 2562
การส่งนักมวยชายเพียง 4 คนไปร่วมการแข่งขันรายการนี้ เพราะมีเงื่อนไขจำกัด 2 กรณี คือ
กรณีแรก AIBA กำหนดให้ลงทะเบียนหรือส่งชื่อนักมวยทุกชาติ เข้าแข่งขันจนถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2562 เป็นวันสุดท้าย และจะมีการเปลี่ยนชื่อนักมวยได้ภายในอีก 1 สัปดาห์ถัดมา คือภายในวันที่ 5 กรกฏาคม 2562 เท่านั้น
กรณีที่สอง สมาคมกีฬามวยสากลฯ จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อ หรือส่งนักมวยคนอื่นๆ เพิ่มเติมภายหลักกำหนด “เส้นตาย” ดังกล่าว แม้จะพบว่า มีนักมวยไทยคนอื่นๆ มีผลงานดีเด่นขึ้นมา จากการแข่งขันมวยสากลนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ค.ศ.2019/พ.ศ.2562 เมื่อปลายเดือนกรกฏาคม 2562 ที่ผ่านมาก็ตาม
ด้วยเงื่อนไขและเหตุผลดังกล่าว สมาคมกีฬามวยสากลฯ จึงส่งนักมวยชายไปชิงแชมป์โลกในปีนี้ ได้เพียง 4 คน ประกอบด้วย รุ่นฟลายเวต 52 กิโลกรัมได้แก่ วุฒิชัย ยุระชัย, รุ่นเฟเธอร์เวต 57 กิโลกรัมได้แก่ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, รุ่นไลต์เวต 63 กิโลกรัมได้แก่ สมชาย วงศ์สุวรรณ และรุ่นเวลเตอร์เวต 69 กิโลกรัม ได้แก่ วุฒิชัย มาสุข โดยมี ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าโค้ชและ กามนิตย์ นารีรักษ์ ผู้ช่วยหัวหน้าโค้ช เป็นคนคุมทีมไป
…..ทั้ง 4 คนคือนักมวยชายไทยที่ดีที่สุด เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลา“เส้นตาย” ของการลงทะเบียนแข่งขัน ณ ขณะนั้น!
ทำให้นักมวยดาวรุ่งคลื่นลูกใหม่อย่าง อธิชัย เพิ่มทรัพย์, ฐิติสรรณ์ ปั้นโหมด, วีรพล จงจอหอ ฯลฯ หมดสิทธิเข้าร่วมแข่งขัน (เพิ่มเติม) ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬามวยสากลฯ โดยนโยบายและการสนับสนุนจาก นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม ก็ควักกระเป๋าก้อนโตเพิ่มเติม ในการส่งนักมวยชายไทยรุ่นใหม่ เดินทางสมทบกับทีมชาติชุดใหญ่ไปรัสเซียรายการนี้ อีกชุดหนึ่ง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์กับการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก และเสริมสร้างเทคนิคกับการเป็นคู่ซ้อมให้กับนักมวยนานาชาติในรายการนี้ เป็นประสบการณ์ทางตรงเพิ่มขึ้นอีกด้านหนึ่ง
นักมวยไทยชุดสมทบชุดนี้ ประกอบด้วย อธิชัย เพิ่มทรัพย์, พีรภัทร เยียะสูงเนิน, ธนกฤษ สิทธิกุล (ฤทธิ์เทวดา ส.นิภาพร), คุณาธิป ปิตนุช (เกร็ดแก้ว นาวีอันดามัน)โดยมี เพิก พึ่งปัญญา เป็นผู้ฝึกสอน
…..ส่วน ฐิติสรรณ์ ปั้นโหมด, วีรพล จงจอหอ นั้น มีปัญหาบาดเจ็บจากการซ้อมล่าสุด จนไม่สามารถร่วมทีมไปรัสเซียด้วยตามแผนเดิม
การแข่งขัน มวยสากลชายชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ของ AIBA รายการนี้ เดิมทีจะเป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกครั้งแรกของมวยสากลชายในมหกรรมการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” แต่ต่อมา ถูกยกเลิกไปเพราะ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล IOC เพิกถอนการรับรองสถานภาพของ AIBA ไปอย่างเป็นทางการ แล้วแต่งตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษชุดหนึ่ง ขึ้นมาทำหน้าที่รับผิดชอบการจัดการแข่งขันมวยสากลใน “โตเกียว 2020” แทน AIBA ดังที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม AIBA ก็ยังยืนยันจัดการแข่งขัน มวยสากลชายชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019ตามเดิมต่อไป โดยมีสมาคมมวยสากลแห่งรัสเซีย ยืนยันการเป็นเจ้าภาพให้เหมือนเดิม โดยไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมเพิ่มเติมเล็กน้อยฃ
เช่น เปลี่ยนการแข่งขันจาก 10 รุ่นน้ำหนัก เหลือเพียง 8 รุ่นน้ำหนัก เพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันใน “โตเกียว 2020” มากที่สุด และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ดังนั้น การแข่งขันมวยสากลชายชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ของ AIBA ที่เมืองเยคาเทรินเบิร์กของรัสเซีย วันที่ 7-21 กันยายน 2562 จึงมีเพียง 8 รุ่นประกอบด้วย รุ่นฟลายเวต 52 กิโลกรัม, รุ่นเฟเธอร์เวต 57 กิโลกรัม, รุ่นไลต์เวต 53 กิโลกรัม, รุ่นเวลเตอร์เวต 69 กิโลกรัม, รุ่นมิดเดิลเวต 75 กิโลกรัม, รุ่นไลต์เฮฟวี่เวต 81 กิโลกรัม, รุ่นเฮฟวี่เวต 91 กิโลกรัม และรุ่นซุปเปอร์เฮฟวี่เวต 91 กิโลกรัมขึ้นไป
แม้ว่า รายการนี้จะไม่ใช่รอบคัดเลือกสำหรับ กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ก็ตาม แต่ชาติชั้นนำของวงการมวยสากลโลก ก็ระดับทีมชาติชุดใหญ่ไปร่วมการแข่งขันกันแบบเต็มอัตราศึก เพราะถือว่า เป็นรายการอุ่นเครื่องและเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย ก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกอย่างเป็นทางการของ กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 ที่กำหนดไว้ 2 รอบ 2 ขั้นตอน คือ ระดับทวีป ที่กำหนดไว้ในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2563 และระดับโลก ในเดือนพฤษภาคม 2563 ต่อไป
ผู้บริหารของ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ก็ตระหนักถึงความสำคัญ และความหมายอันเป็นนัยยะที่สำคัญดังกล่าวด้วยเช่นกัน จึงลงทุนส่งนักมวยไทยชุดใหม่ ไปสังเกตการณ์และแสวงหาประสบการณ์จากรายการนี้ เป็นกรณีพิเศษ
ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าโค้ชมวยสากลทีมชาติไทยยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าวว่า มวยสากลชายชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ของ AIBA รายการนี้ จะเป็นคำตอบที่ชัดเจนมากที่สุดว่า อนาคตของนักมวยชายไทยในเส้นทางลุ้นเข้ารอบสุดท้ายกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 จะเป็นอย่างไร?
และ แนวโน้มของนักมวยไทยกับเป้าหมาย “เหรียญทอง” กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020 จะมีมากน้อยแค่ไหน?
อีกไม่กี่วันก็จะมี “คำตอบ” ออกมาให้รับรู้กัน