สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยแห่งประเทศไทย และผู้จัดการมวยสากลทีมชาติไทย ในโอลิมปิกเกมส์ “ โตเกียว 2020 “ เปิดเผยว่า ในนามของสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พอใจ การได้มา 1 เหรียญทองแดง จากมวยสากลหญิง 60 กิโลกรัม ของ“แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ถือเป็นการทำผลงานให้กับสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่เป็นประวัติศาสตร์ เพราะเป็นเหรียญรางวัลแรก ที่มาจากนักกีฬามวยสากลหญิง
ทั้งนี้โอลิมปิกเกมส์ “ โตเกียว2020” เดิมนักมวยสากลทีมชาติไทย ที่ได้โควตา รวม 5 คน แต่เข้าแข่งขัน 4 คน คือ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี มวยสากลชาย , ใบสน มณีก้อน มวยสากลหญิง ,จุฑามาศ จิตรพงศ์ มวยสากลหญิง และ “แต้ว”สุดาพร สีสอนดี มวยสากลหญิง ในขณะที่ ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด นักมวยสากลชาย เดิมคือโควตา ที่ 5 เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถแข่งขันได้
ดังนั้น 1 เหรียญทองแดง จาก “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ต้องให้กำลังใจ ทั้งต่อ ใบสน มณีก้อน และ จุฑามาศ จิตรพงศ์ มวยสากลหญิง เพราะถึงแม้ว่าทั้งคู่ จะไม่สามารถทำผลงานเหรียญรางวัลในโอลิมปิก 2020 แต่ก็ถือเป็นนักกีฬามวยสากลที่มีอนาคต รวมไปถึง ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ ในการแข่งขันรายการใหญ่ต่อไปอย่าง เอเชียนเกมส์ 2022 ที่ ประเทศจีน ไปจนถึงโอลิมปิกเกมส์ ปารีสเกมส์ 2024 อีก 3 ปีข้างหน้า การพัฒนานักกีฬาท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะดีขึ้นหรือเลวร้ายลง โดยในโอลิมปิกเกมส์ 2024 นั้น สมาคมกีฬามวยสากล ฯตั้งเป้าว่าจะต้องกลับมาผลงานเพื่อโควตา นักกีฬาเข้าร่วมให้ได้มากที่สุด
“แนวทางพัฒนานักกีฬาของไทยอย่างต่อเนื่อง จะต้องเน้นเรื่องการจัดแข่งขันระดับนานาชาติในประเทศให้มากขึ้น และเชิญทีมมวยสากลต่างชาติที่มีศักยภาพมาร่วมแข่งขัน ซึ่งการได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ครั้งนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้หลายอย่าง ที่จะทำให้มวยสากลของไทยประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนจัดการด้านต่างๆ ภายใต้โควิด19 ที่คาดว่าจะยื้อเยื้อออกไปอีกนาน” สมชาย กล่าว