เคบียู สปอร์ต โพล เผยผลสำรวจเรื่อง “นายกสมาคมกีฬามวยสากลในมุมมองของแฟนกีฬา” ซึ่งสมาคมจะจัดเลือกตั้งนายกคนใหม่ขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 19 ธ.ค.นี้ พบร้อยละ 80 ยก “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ซึ่งทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิคคนปัจจุบัน เหมาะสมกับนายใหญ่วงการกำปั้นไทย ส่วน “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมคนปัจจุบัน ได้ผลโหวต ร้อยละ 13.80 ชี้ความหวังสูงสุดที่แฟนๆอยากเห็นจากนายใหญ่คนใหม่ คือ พัฒนาและยกระดับกีฬามวยสากลไทยให้ก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแนวหน้าของโลก
จากการที่กีฬามวยสากล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาแห่งความหวังสำหรับการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยกำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ในวันอาทิตย์ ที่ 19 ธ.ค.นี้ ที่โรงแรมเอบิน่าเฮาส์ ซอยวิภาวดีรังสิต 64 โดยเวลานี้ มีผู้ลงสมัครเลือกตั้ง 2 ราย ได้แก่ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมคนปัจจุบัน กับ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิคและผู้จัดการทีมนักชกไทย
เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองในมิติต่างๆของประชาชนทั่วไป ตลอดจนแฟนกีฬาที่มีต่อการได้มาซึ่งนายกสมาคมคนใหม่ เคบียู สปอร์ตโพล (KBU SPORT POLL) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “นายกมาคมกีฬามวยสากลในมุมมองของแฟนกีฬา”
สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. 64 – 2 ธ.ค.64โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจและติดตามข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 2,221 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 1,526 คน คิดเป็นร้อยละ 68.70 เพศหญิง 695 คน คิดเป็นร้อยละ 31.30 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า
ความสนใจในการติดตามผลงานของสมาคมกีฬามวยสากลฯ กลุ่มอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 52.00 สนใจและติดตามเป็นครั้งคราว รองลงมา ร้อยละ 43.40 สนใจและติดตามอย่างต่อเนื่อง และร้อยละ 4.60ไม่ได้ติดตาม ส่วนบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนายกสมาคมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.00 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ (ประธานพัฒนาเทคนิคคนปัจจุบัน) รองลงมาร้อยละ 13.80 นายพิชัย ชุณหวชิร (นายกสมาคมคนปัจจุบัน) และร้อยละ 6.20 บุคคลอื่นๆตามที่สโมสรสมาชิกเห็นว่าเหมาะสม
ด้านคุณลักษณะของนายกสมาคมที่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่ร้อยละ74.00 มีวิสัยทัศน์กว้างไกล/ซื่อสัตย์สุจริต รองลงมา ร้อยละ 66.90 มีความมุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเทและกล้าตัดสินใจ ร้อยละ 55.40 มีความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการ ร้อยละ 49.20 มีความเข้าใจในศาสตร์ของกีฬามวยสากล ร้อยละ 48.20 มีมนุษยสัมพันธ์และเข้าถึงง่าย ร้อยละ47.90 มีผลงานเป็นที่ยอมรับในเชิงประจักษ์ทั้งในและต่างประเทศ และอื่นๆร้อยละ 4.50
ความคาดหวังจากนายกสมาคมคนใหม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.30 พัฒนาและยกระดับกีฬามวยสากลให้เท่าเทียมกับนานาประเทศสู่
มาตรฐานสากล รองลงมาร้อยละ 67.30 พัฒนาและยกระดับสมาคมให้เป็นองค์กรคุณภาพชั้นนำสู่สากล ร้อยละ 56.70 สร้างนักกีฬารุ่นใหม่เพื่อคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกและมหกรรมกีฬานานาชาติ ร้อยละ46.40 สร้างขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง ร้อยละ 44.40ให้ความสำคัญและสนับสนุนสโมสรสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 42.80 สร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ และอื่นๆร้อยละ 3.60
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต เผยเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะกีฬามวยสากลเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่คนไทยสนใจและคาดหวัง รวมทั้งมีผลงานจากการเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง แฟนกีฬาจึงสนใจและติดตามผลงานถึงแม้จะเป็นครั้งคราวก็ตาม แต่ที่น่าสนใจสำหรับการสำรวจเมื่อเข้าไปดูในประเด็นของบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนายกสมาคมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต่างยกให้นายสมชาย พูลสวัสดิ์ในฐานะประธานพัฒนาเทคนิคคนปัจจุบันเป็นผู้เหมาะสมกับการขึ้นนั่งในตำแหน่งนายกสมาคมมากที่สุด ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโดยเฉพาะการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆบุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังและเป็นผู้จัดการทีมที่มีผลงานภายใต้ความมุ่งมั่นทุ่มเทกับการส่งเสริมนักกีฬามาอย่างต่อเนื่องก็ว่าได้ และเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับความคาดหวังจากนายกสมาคมคนใหม่กลุ่มตัวอย่างชี้ไปที่การพัฒนาและยกระดับกีฬามวยสากลให้เท่าเทียมกับนานาประเทศและที่น่าสนใจคือการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่เพื่อคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกและมหกรรมกีฬานานาชในอนาคต
อย่างไรก็ตาม จากผลการสำรวจดังกล่าวถึงแม้จะเป็นเพียงความคิดเห็นหรือมุมมองในมิติต่างๆที่มาจากแฟนกีฬากลุ่มหนึ่งที่ต้องการมีส่วนร่วมและอยากเห็นพัฒนาการของวงการกีฬาไทยโดยเฉพาะมวยสากลก้าวไปในทิศทางที่ดีในอนาคตก็ตาม แต่สำหรับการจะได้มาซึ่งนายกสมาคมคนใหม่ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนบริหารจัดการและยกระดับมวยสากลบ้านเราให้ก้าวไกลแห่งอนาคตดังที่คนส่วนใหญ่คาดหวังนั้นก็คงจะขึ้นอยู่กับสโมสรสมาชิกที่จะลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่19 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคือผู้ที่จะกำหนดทิศทางอนาคตและความเจริญก้าวหน้าของวงการนักชกเสื้อกล้ามไทยอย่างแท้จริง ผศ.ดร.รัฐพงศ์ กล่าว
Add friend ที่ @Siamsport