ไม่ได้โม้!สมรักษ์ขอพิสูจน์ฝีมือคุมมวย ยันคิวบาสไตล์ดีที่สุด – สยามกีฬา

 “ไม่ได้โม้” สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย ท้าพิสูจน์ถ้าได้โอกาสคุมทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย จะใช้คิวบาสไตล์มาสอนให้กับนักมวยทีมชาติทุกคนโดยจะดึงนักมวยเหรียญโอลิมปิกที่เคยได้เหรียญทองมาร่วมสต๊าฟทำงานเพราะเชื่อว่าคิวบาสไตล์ดีที่สุดไม่ว่าวงการมวยสากลสมัครเล่นจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เชื่อว่าจะทำผลงานให้กับทีมมวยสมัครเล่นไทยดีขึ้นแน่นอน อยู่ที่ว่าผู้บริหารสมาคมมวยสมัครเล่นของไทยจะให้โอกาสแสดงฝีมือหรือไม่ ถึงตนจะไม่ได้เรียนด้านโค้ชมาแต่ขอใช้ประสบการณ์โอลิมปิก 4 สมัย มาถ่ายทอดวิชาให้รุ่นน้องในโครงการ “พี่ช่วยน้อง” พร้อมกับยืนยันจะคัดเอาคนที่เก่งที่สุดโดยไม่มีคำว่าเด็กใครเด็กมันเป็นอันขาด 

    ปิดฉากไปแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อค่ำคืนวันที่ 8สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้ไทยได้มา 1เหรียญทอง จากเทควันโด โดย “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ 1 ทองแดง จากมวยสากลสมัครเล่นหญิง “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ซึ่งในครั้งนี้โดยเฉพาะกีฬามวยสมัครเล่นของไทยหยิบเหรียญกู้ชื่อกลับมา โดยคิวบาคว้ามาได้ถึง4เหรียญทองจากกีฬามวยสมัครเล่น

    เรื่องนี้ฮีโร่ “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกที่แอตแลนต้าเกมส์ 1996 ได้เผยกับสยามกีฬา ว่า “จริงๆแล้วตนเคยได้บอกกับสมาคมมวย และ โค้ชไปแล้วทุกครั้งที่ได้เจออยากให้เน้นคิวบาสไตล์มาใช้กับนักชกไทยมากกว่าเดิม แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าเทคนิคการให้คะแนนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ที่เห็นตนว่าถ้านักมวยของเราหลบหลีกได้แล้วตอบโต้กลับคืนเราก็ชนะได้เช่นกัน ตนจำได้ว่าได้ไปดูมวยชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพเมื่อไม่กี่ปี ตนเห็นวุฒิชัย มาสุข ชกกับคู่แข่งแลกกันดุเดือดในช่วง2ยก ตนขออนุญาตผู้ใหญ่ของสมาคมลงไปสอนวุฒิชัยให้ใช้การชกคิวบาสไตล์ ปรากฏว่ายก3เราชนะเขาขาดลอย”

    “ไม่ว่ายุคไหนก็เถอะผมมั่นใจว่าถ้าเราชกแบบดักต่อยคุ่แข่งได้มากกว่า และหลบหลีกได้เราชนะแน่ การที่คิวบาได้มา 4 เหรียญทองก็ไม่น่าแปลกใจ อย่างวันที่ ฉัตร์ชัยเดชา ชกกับมวยคิวบา จะเห็นว่าสไตล์ของมวยคิวบาทำได้ดีกว่า ถ้าผมมีโอกาสทำทีมนะผมมั่นใจว่าอย่างในซีเกมส์มีแน่ๆ 5 เหรียญทอง ผมอยากพิสูจน์ตัวเองอยุ่ที่ว่าผู้บริหารจะให้ลองมั้ย ถ้าไม่ดีทำไม่ได้ก็เลิก”

    ฮีโร่บาส ยังเผยอีกว่าทุกวันนี้วงการมวยสมัครเล่นซบเซาไปเยอะ ตนอยากให้มีสีสันมากขึ้น ตนก็มีสไตล์เป็นของตัวเองแม้ว่าจะไม่ได้เรียนโค้ชมาแต่จากประสบการณ์ที่เคยผ่านโอลิมปิกมา 4สมัยก็น่าจะมากพอที่จะทำให้มวยสมัครเล่นของไทยดีขึ้นในอนาคต

    “ผมอยากจะดึงนักมวยที่เคยได้เหรียญทองโอลิมปิกทั้ง วิจารณ์ พลฤทธิ์ , มนัส บุญจำนงค์ และ สมจิตร จงจอหอ มาร่วมทีมงานรวมถึงนักมวยระดับเหรียญโอลิมปิกมาร่วมด้วยเพราะว่ามีดีกรีให้นักมวยรุ่นน้องเห็น แบ่งกันดูนักมวยคนละ 2 ราย ทำแข่งกันแต่ซ้อมด้วยกันโดยมีผมเป็นหัวหน้าโค้ชมาร่วมมือกัน ผมมั่นใจว่าทุกคนมีฝีมือ มีศักยภาพพอ เป็นสีสัน พี่ช่วยน้อง ซึ่งผมเคยคุยกับผู้ใหญ่ในทีมไปแล้วก็อยู่ที่ว่าท่านจะให้โอกาสแสดงฝีมือหรือไม่”

    นอกจากนั้น สมรักษ์ ยังทิ้งท้ายอีกว่าทีมมวยสมัครเล่นประสบความสำเร็จคนไทยก็มีความสุข จึงต้องเอาคนที่เก่งที่สุดไปเป็นตัวแทนเหมือนกับยุคของ ฮวน ฟอนตาเนียล โค้ชชาวคิวบาที่เคยฝากผลงานเอาไว้ในอดีต จะไม่มีว่าเด็กใคร เด็กมัน สังกัดที่ไหน ถ้าข้องใจก็มาคัดเลือกกัน เพื่อให้ได้ตัวแทนที่ดีที่สุด