เมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่อาคารที่พักนักกีฬา 300 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก กรุงเทพฯ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมฯ เดินทางมาให้โอวาทและให้กำลังใจคณะนักชกทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขัน มวยสากลชายชิงแชมป์โลก 2021 “AIBA Men’s World boxing Championships2021” ระหว่าง 24 ต.ค.-26 พ.ย.นี้ ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย
สำหรับทีมนักชกไทยชุดนี้ ประกอบไปด้วย รุ่นไลต์ฟลายเวต (48 กก.) วุฒิชัย ยุระชัย, รุ่นฟลายเวต (51 กก.) ธนรัฐ แสงเพชร, แบนตั้มเวต (54 กก.) ปฏิภาณ อุทัยดา,เฟเธอร์เวต (57 กก.) รุตชการญ์ จันทร์ตรง, ไลต์เวต (60 กก.) คุณาธิป ปิดนุช, ไลต์เวลเตอร์เวต (63.5 กก.) สมชาย วงศ์สุวรรณ, เวลเตอร์เวต (67 กก.) อธิชัย เพิ่มทรัพย์, ไลต์มิดเดิ้ลเวต (71 กก.) พีระภัทร์ เยียะสูงเนิน, มิดเดิ้ลเวต (75 กก.) วีระพล จงจอหอ และไลต์เฮฟวี่เวต (80 กก.) จักรพงศ์ ยมโคตร โดยมี ร.ท.กามนิตย์ นารีรักษ์ เป็นเฮดโค้ช ส่วนสตาฟฟ์โค้ชได้แก่ โอมาร์ พารากอน (คิวบา), จ.ส.อ.ปีใหม่ โพธิ์สุวรรณ, จ.ส.อ.ฐวิกร สณฑ์สกุณา และ ศุภวิชญ์ เจริญสุข
รายการนี้มีการชิงชัยทั้งสิ้น 13 รุ่น 105 ชาติทั่วโลกร่วมตะบัน นักชกรวม 650 คน ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่มีการมอบเงินรางวัลมมหาศาลให้นักมวยที่ได้เหรียญทุกรุ่นโดยเงินรางวัลรวมที่ไอบ้าประกาศไว้ครั้งนี้ รวม 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ. 85.6 ล้านบาท เหรียญทองรับไปเลย 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.29 ล้านบาท, เหรียญเงินได้ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ราว 1.64 ล้านบาท และเหรียญทองแดงได้ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 824,000 บาท นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรกที่มีการมอบเข็มขัดแชมป์โลกของไอบ้า หรือสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (AIBA) ให้นักชกทุกรุ่นที่คว้าแชมป์ด้วย
ทั้งนี้นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้อายุระหว่าง 20 ปีต้น ๆ ถือเป็นชุดความหวังของสมาคมฯ ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ระวังและดูแลสุขภาพให้ดี เป้าหมายของสมาคมคือการสร้างนักชกไทยให้เข้าสู่ระดับโลกและโอลิมปิก นอกจากนั้นการแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์โลกครั้งนี้ เป็นหนึ่งในรายการที่ไทยจะถูกแบนจากวาดาและไอโอซี ไม่ให้ใช้ธงชาติในสนามแข่งขันและพิธีมอบเหรียญ ทว่าล่าสุดไอบ้า อนุญาตไฟเขียวให้นักชกไทย สามารถใส่เสื้อที่มีธงชาติไทย และตัวหนังสือชื่อประเทศไทย ขึ้นชกได้ ถือว่ายังเป็นเรื่องดีสำหรับทีม
ด้าน “โค้ชแซม” ร.ท.กามนิตย์ นารีรักษ์ เปิดเผยว่า ทีมนักชกชุดนี้ บินไปเซอร์เบีย คืนวันที่ 22 ต.ค. (เช้าวันที่ 23 ต.ค.) โดยขึ้นเครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน EK 385 เวลา 01.45 น. ถึงสนามบิน ดูไบ เวลา 04.55 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.) จากนั้นต่อเครื่องออกจากดูไบ เที่ยวบิน EK 22.20 เวลา 10.30 น. ถึงสนามบินเซอร์เบีย เวลา 14.25 (ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม.) และเที่ยวบินขากลับวันที่ 7 พ.ย. 64 โดยเครื่องออกจากสนาบินเซอร์เบีย เที่ยวบิน QR 232 เวลา 15.35 น. ถึงสนามบิน โดฮา 22.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) จากนั้นต่อเครื่องออกจาก โดฮา เที่ยวบิน QR 836 เวลา 02.20 น. ถึง สุวรรณภูมิ เวลา 12.40 น. แต่ชุดแรกยังมีปัญหาเรื่องวีซ่า ยังไม่ครบ เพราะต้องส่งไปทำที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยนักชกทั้ง 10 รุ่น จะเดินทางไปก่อนพร้อมกับล่าม และโค้ชคิวบา โอมาร์ พารากอน ส่วนตน และโค้ชอีก 3 คน จ.ส.อ.ปีใหม่ โพธิ์สุวรรณ, จ.ส.อ.ฐวิกร สณฑ์สกุณา และ ศุภวิชญ์ เจริญสุข จะตามไปภายหลัง ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไร นักชกชุดนี้มีความพร้อมเต็มที่ ทีมโค้ชตั้งเป้าให้นักมวยทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อสร้างอันดับโลกติดตัว และความแข็งแกร่ง ที่จะมีประโยชน์สำหรับการเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่อไป
นอกจากนั้น “โค้ชแซม” กล่าวว่า นักชกทุกคน นักมวยพูดกับตนเองว่า ตั้งเป้าที่จะคว้าเหรียญทองให้ได้ เพราะนอกจากจะมีเหรียญทองและเงินรางวัลแล้ว ยังมีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นครั้งแรกด้วย ที่ทุกคนอยากนำกลับประเทศไทย ซึ่งตนก็มองว่า ทีมนักชกชุดนี้มีความพร้อมและมีศักยภาพ มีดีพอ ที่จะทำผลงานได้ดี