This image is not belong to us

‘ฉัตร์ชัยเดชา’ ลุยเซอร์เบียต่อ – หวังกระชากเหรียญอลป. คล้องคอ

ตามที่ “ไอ้สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักมวยสากลทีมชาติไทย เก็บชัยชนะไฟต์ที่ 3 ด้วยการเอาชนะน็อก วันเฉลิม แซ่หาญ จากราชนาวี ในยกที่ 3 ของการแข่งขันมวยสากล “ไทยแลนด์ บ็อกซิ่ง ซีรีส์ 1” ที่สนามกีฬามวยเยาวชนกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม

ฉัตร์ชัยเดชา เปิดเผยว่า สภาพความฟิตในตอนนี้ 80% แล้ว ส่วนอีก 20% ก็อยู่กับการเก็บตัวออกไปแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เพราะที่ผ่านมาได้แต่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่อย่างเดียว เนื่องจากติดปัญหาเรื่องไวรัสโควิด-19 การได้ออกไปแข่ง หรือไปอุ่นเครื่องนับว่าเป็นการขยับเขยื้อนกล้ามเนื้อ ก็จะทำให้ร่างกายพร้อมกว่านี้ ตอนนี้จึงพยายามที่จะลงนวมฝึกซ้อมกับมวยอาชีพ เพราะก่อนหน้านี้ได้แต่ลงนวมฝึกซ้อมแต่กับมวยสากลสมัครเล่น หลังจากนี้จะมีการแข่งขันที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ในช่วงเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ สำหรับรายการนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เหมือนเป็นการออกไปศึกษาคู่แข่ง และดูข้อผิดพลาดของเราด้วย ว่าจะต้องแก้ไขตรงไหน ส่วนโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็หวังไว้ว่าจะมีเหรียญรางวัลกลับมาประเทศไทย


ส่วนอีกหนึ่งกำปั้นไทยที่ถือเป็นไฮไลต์ของวันคือ สุดาพร ศรีสอนดี ขึ้นเวทีในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 60 กก. เอาชนะ พรทิพย์ บัวป่า จากทีมชาติชุดบี 5-0

หลังการชกสุดาพร เปิดเผยว่า สำหรับโอลิมปิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้สภาพร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่ ยังต้องฝึกเรื่องเทคนิค และต้องสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายเพิ่มก่อน โดยเดือนหน้ามีทัวร์นาเมนต์จะไปแข่งขันที่ กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเหมือนการเตรียมความพร้อม เนื่องจากไม่ได้มีการแข่งขันมานานแล้ว จึงเป็นเหมือนการออกไปเก็บประสบการณ์ และสร้างความคุ้นเคยให้กับร่างกาย


“สำหรับโอลิมปิก ทุกคนที่มีโอกาสมาถึงจุดนี้ย่อมมีความหวังอยู่แล้ว แต่เราจะไม่คาดหวังว่าต้องได้เหรียญอะไร แต่จะโฟกัสที่จะผ่านไปทีละแมตช์มากกว่า” สุดาพรกล่าว

ส่วนผลคู่อื่นที่น่าสนใจมีดังนี้ รุ่นไลท์ฟลายเวท 49 กก. พงศ์กร ไพโรจน์วิรุฬห์ (ราชนาวี) แพ้ ธรรัฐ แสงเพรช (สนง.ตำรวจแห่งชาติ) โดยกรรมการเป่ายกเลิกในยก 2 , ภานุวัฒน์ จันทระ(ทหารอากาศ) แพ้ ฤทธิอมร แสงสว่าง (สนง.ตำรวจแห่งชาติ) 1-4, ธนกร อ่อนแย้ม (สนง.ตำรวจแห่งชาติ) ชนะ สาธิต แก้วเกษม (ทหารอากาศ) 3-2