ความหวังของหมู่บ้านตัวจริง ฟลอรา ดัฟฟี สร้างประวัติศาสตร์ให้ เบอร์มิวดา กลายเป็นชาติที่มีขนาดเล็กที่สุด ที่สามารถคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกได้
วันที่ 27 ก.ค. 64 โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดย เบอร์มิวดา ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในมหาสมุทรแอตแลนติก ในการแข่งขันไตรกีฬา ประเภทหญิง ที่โอไดบะ มารีน พาร์ค
รายการนี้ ฟลอรา ดัฟฟี วัย 33 ปี ซึ่งลงแข่งขันโอลิมปิกสมัยที่ 4 ของเธอ อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 56 คน ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 55 นาที 36 วินาที เร็วกว่า จอร์เจีย เทย์เลอร์-บราวน์ อันดับ 2 จากสหราชอาณาจักร 1 นาที 14 วินาที และ เคที ซาเฟเรส อันดับ 3 จากสหรัฐอเมริกา 1 นาที 27 วินาที
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ เบอร์มิวดา ซึ่งมีประชากรทั้งหมดเพียง 63,000 คน กลายเป็นชาติหรือดินแดนที่มีขนาดเล็กที่สุดที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ในกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน และยังเป็นเหรียญทองแรกของประเทศ รวมถึงเป็นเพียงเหรียญที่ 2 ต่อจากเหรียญทองแดงในปี 1976 โดยผลงานของ คลาเรนซ์ ฮิลล์ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น
ก่อนหน้านี้ ดัฟฟี ที่เคยปฏิเสธโอกาสการลงแข่งขันในนามนักกีฬาของสหราชอาณาจักรเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น ก็เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของ เบอร์มิวดา ที่คว้าชัยในกีฬาเครือจักรภพ (คอมมอนเวลธ์เกมส์) เมื่อปี 2018
ดัฟฟี ให้สัมภาษณ์หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ว่า “ฉันภูมิใจมากที่ได้เป็นชาวเบอร์มิวดาคนแรก และเป็นผู้หญิงคนแรกที่คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ หวังว่านี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่บ้านได้เห็นว่าทุกสิ่งสามารถเป็นจริงได้”