ทวงบัลลังก์

โดยพิธีปิดเป็นไปอย่างเรียบง่าย ซึ่งเวียดนาม ส่งท้ายด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ใกล้ชิด อีกทั้งยังสื่อถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและสมัครสมานสามัคคีของภูมิภาคอาเซียน

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่พิธีส่งมอบธงประจำการแข่งขันซีเกมส์จากเวียดนาม เจ้าภาพครั้งที่ 31 สู่กัมพูชา เจ้าภาพครั้งที่ 32 ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปีหน้า ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.ปี 2023

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เจ้าเหรียญทองตกเป็นของเวียดนาม เจ้าภาพ ตามคาดคว้าไป 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน และ 116 เหรียญทองแดง ส่วนทีมชาติไทยได้อันดับ 2 ทำได้ 92 เหรียญทอง 102 เหรียญเงิน และ 138 เหรียญทองแดง

สรุปงานของสมาคมกีฬาต่างๆมี 11 ชนิดกีฬาทำผลงานได้เกินเป้าหมาย 5 กีฬาทำผลงานได้ตามเป้าหมาย และอีก 25 ชนิดกีฬาทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

เรียกได้ว่าหลังจากกลับมาจากเวียดนามครั้งนี้บรรดาสมาคมกีฬาต่างๆก็ต้องเร่งเก็บตัวอย่างต่อเนื่องเพราะซีเกมส์ครั้งต่อไปก็จะมีขึ้นในปีหน้าแล้ว

พูดถึงกัมพูชา เป็นเพียงชาติเดียวที่ร่วมก่อตั้งซีเกมส์กันมายังไม่เคยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพเลยและในปี 2023 จะเป็นปีแรกที่จัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาเซียน

ตอนนี้ทางกัมพูชาก็พร้อมแล้วที่จะเปิดสู่สายตาชาวโลกว่ากรุงพนมเปญนั้นก็มีดีพอที่จะจัดการแข่งขันรายการใหญ่ๆได้เช่นกัน

โดยจะมีการชิงชัยรวมทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา ประกอบกันด้วยกีฬาหลักๆก็อยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น กรีฑา, กีฬาทางน้ำ, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, มวยสากลสมัครเล่น, บิลเลียด, จักรยาน, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, ฮอกกี้, ยูโด, คาราเต้, มวย, เปตอง, เรือใบ, เซปักตะกร้อ, เทนนิส, เทเบิล เทนนิส, เทควันโด, วอลเลย์บอล, มวยปล้ำ, ยกน้ำหนัก, วูซู ฯลฯ

เรียกได้ว่ากัมพูชาจัดเต็มเช่นกันกับการจัดการแข่งขันครั้งแรก

สำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 32 นั้นเป้าหมายของเราในซีเกมส์ครั้งหน้านั้นไม่ต้องสืบมีเพียงแค่เป้าหมายเดียวคือการทวงเจ้าเหรียญทองคืนมาจากเวียดนามคืนมาให้ได้เท่านั้น

เพราะเราห่างจากคำว่าเจ้าเหรียญทองมา 3 ครั้งแล้ว

ถ้าครั้งต่อไปเรายังไม่เร่งสปีดตัวเองและปล่อยโอกาสให้ยืดยื้อไปมากกว่านี้

คงยากที่เราจะทวงบัลลังก์เจ้าซีเกมส์กลับมาได้!!