“บิ๊กชาย” หนุน IOC จัดมวยสากลในโอลิมปิกเอง เชื่อไม่มีค้านสายตา


This image is not belong to us

ขุนพลเสื้อกล้ามไทย ไม่สนปัญหาไอโอซีแบนไอบาชั่วคราว สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลฯ มองกลับเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยแก้ปัญหาการตัดสินให้เที่ยงธรรมขึ้น พร้อมเดินหน้าเตรียมนักชกให้พร้อมที่สุด ด้วยการวางแผนส่งแข่ง และเก็บตัวต่างประเทศ เสริมเขี้ยวเล็บ เพื่อลุ้นตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020

หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เดินหน้าสอบสวนการบริหารงานของสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบา โดยยุติการสนับสนุนทุกด้าน และการติดต่อสื่อสารทุกทาง ทำให้ ไอบา ไม่สามารถจัดการแข่งขันรายการระดับนานาชาติใดๆ ได้เลย จนกว่าไอโอซีจะมีการประชุมในเรื่องนี้อีกครั้ง เดือน มิ.ย.ปีหน้า ซึ่งส่งผลต่อความไม่แน่นอนของวงการมวยสากลสมัครเล่นโลก และมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในอีก 2 ปีข่างหน้านั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เรื่องนี้มีคนถามกันมามากว่าจะกระทบกับทีมมวยของไทยในโอลิมปิกหรือไม่ อยากบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขององค์กรโลกที่ต้องบริหารจัดการเพื่อประโยชน์ของกีฬามวยสากล ดังนั้นสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย มีหน้าที่เตรียมนักกีฬาให้ดีที่สุด ไม่ว่าไอโอซีจะมีปัญหากับไอบาแล้วให้องค์กรอื่นมาจัดแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโตเกียว 2020 ก็คงไม่มีผลอะไรกับไทย อาจจะเป็นผลดีมากกว่าเพราะที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าไอบาจะยืนยันว่าได้มีการแก้ปัญหาผู้ตัดสินไม่โปร่งใสไปบ้างแล้วตั้งแต่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่หลายชาติรวมทั้งตัวเองยังรู้สึกว่าปัญหายังคงมีอยู่ ส่วนในยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ที่ไอโอซีลงมาดูแลอย่างใกล้ชิดกลับไม่มีปัญหาเรื่องผู้ตัดสินเลย ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวผู้ตัดสินไอบายังไม่ดีนัก ในสายตาคนมวยทั่วโลก

ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมทีมนักชกไทยไปคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 นั้น การคัดเลือกจะต้องเริ่มจากการได้แชมป์ หรือรองแชมป์ หรือบางรุ่นก็รวมถึงอันดับ 3 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2019 ก่อน เพื่อจะได้โควตาไปแข่งขันชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย และอันดับ 1-2 หรือ 3 ในแต่ละรุ่นจะได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องปกติของโอลิมปิกที่ไม่เคยง่าย แต่จากประสบการณ์ที่เคยมีมาแล้ว มั่นใจว่านักชกไทยจะได้โควตาไปแน่นอน แต่จะได้กี่คนคงตอบไม่ได้ เพราะต้องดูปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ในช่วงเตรียมทีมและแข่งขันด้วย ที่สำคัญจะต้องพยายามเอาเหรียญรางวัลกลับมาให้ได้ หลังจากโอลิมปิกที่ประเทศบราซิล พลาดเหรียญครั้งแรกในรอบหลายสิบปีมาแล้ว

นายสมชายย้ำด้วยว่า ตอนนี้ยังเก็บตัวนักมวยกันอย่างต่อเนื่อง และจะต้องให้ออกไปต่อยไปเก็บตัวในต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ว่านักชกไทยจะมีฝีมือ แต่ถ้าเทียบกับอุซเบกิสถานและคาซัคสถาน 2 ชาตินี้มีนักมวยที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า ไม่ต้องรอให้โค้ชสั่งก็พลิกเกมได้ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้มาจากการที่พวกเขาได้ออกไปแข่งขันต่างประเทศบ่อย ได้ประสบการณ์จากการต่อยรายการใหญ่ๆอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไทย ต้องทำแบบนี้บ้าง

“สำหรับการประเมินผลงานของโค้ชชาวคิวบา จูเลียน เซเดโย หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมมวยชาย พร้อมด้วย ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าโค้ชทีมกำปั้นหญิง คณะกรรมการบริหารได้มีการคุยกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะในรายของเซเดโยที่เซ็นกันปีต่อปี ส่วนตัวมองว่าทำหน้าที่ได้ดี มีระเบียบวินัยที่เข้มมาก เป็นมืออาชีพ แต่จะต่อสัญญาหรือไม่นั้น คงต้องให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้ตัดสินใจ” ประธานเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลฯ กล่าว.