“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏให้รู้เท่าทัน นักการเมืองชาติ ติ่งสัมภเวสีส่ำสัตว์ที่ตามเลียขนหน้าแข้งนักการเมืองทุนสามานย์ อย่างเท่าเทียม” เริ่มต้นด้วยการอัญเชิญ “พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเป็นการเตือนสติ ให้พสกนิกรได้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต และในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ดังพระบรมราโชวาทบทหนึ่งความว่า “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”…
nn “ไม้หน้าสาม” เสียดายเวลาที่สังคมไทยให้ความสำคัญเสียงสำรอกสำรากนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่ไม่เคยส่องกระจกดูตัวเองกระทำความผิดจนบ้านเมืองเสียหาย อย่าง “โทนี่ วู้ดซัม สัมภเวสีไกลบ้าน” นอกจาก “ไม่ส่องกระจก … ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก” ดูเงาตนเองแล้วยังกล่าวหาให้ร้ายผู้เห็นต่างอีกต่างหาก ทำให้ดูเหมือนตนเองคือความถูกต้องสูงส่ง ทั้งที่ “ระบอบทักษิณ, ทักษิณาธิปไตย (ผลไม้พิษ) จากต้นไม้พิษทายาทง่วนเส็ง แซ่คู หัวหน้าอั้งยี่ “คณะงี่เฮ็ง”บ้านบางกะจะ อ.พลอยแหวน เมืองจันทบุรี, ทรราชจากการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก (สมบูรณาญาสิทธิราชย์จากการเลือกตั้ง)” เป็นตัวการสำคัญในการทุจริตคอร์รัปชั่น มุ่งกอบโกยทรัพยากรส่วนรวมของชาติเป็นสำคัญ ด้วยการสร้างและใช้อำนาจการเมืองเผด็จการเบ็ดเสร็จในคราบประชาธิปไตย ทำลายล้างระบบการถ่วงดุลของรัฐสภา การตรวจสอบขององค์กรอิสระ และการพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม ดิสเครดิตกล่าวโจมตีให้ร้ายอีกต่างหาก…
nn จำกันได้หรือไม่ช่วงเวลาเรืองอำนาจของเจ้าของลัทธิ “ทักษิณาธิปไตย”นั้น สื่อสารมวลชนถูกตัดแขนขา(งานโฆษณา)จากภาครัฐโดยสิ้นเชิง ยกเว้นสื่อปีศาจที่ยอมอ่อนน้อมก้มหัวศิโรราบให้เท่านั้นที่อยู่รอด ใช้วิทยุชุมชนกว่า 5,000 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อเผยแพร่คำโกหกหลอกลวงกับประชาชนคนรากหญ้า ปลุกปั่นสนตะพายพี่น้องคนเสื้อแดงให้กลายเป็นฐานเสียงสำคัญของตนเองและพรรคการเมืองของตน อย่างที่พระท่านเทศน์สั่งสอนว่า “นตฺถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน (คนกล่าวมุสาพูดโกหก จะไม่พึงทำชั่วอื่น ย่อมไม่มี) คนที่พูดปดอยู่เป็นประจำ เป็นคนเหลาะแหละหละหลวม ไม่มีสัจจะ ไม่มีความจริงใจให้ใคร เป็นคนกลับกลอก เชื่อถือไม่ได้”…
nn หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อครั้งที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ถูกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้ง “คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศด้วย Soft Power 6 ด้าน” ประกอบด้วย 1.อาหารไทย 2.สินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย 3.ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ 4.ธุรกิจ Wellness Medical Services (WMS) 5.แบรนด์ประเทศไทย และ 6.ผู้ประกอบการยุคใหม่โดยกรรมการชุดนี้มีอำนาจ หน้าที่กำหนดเป้าหมายและวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา Soft Power ส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไปสู่นานาประเทศให้เกิดมูลค่าเชิงเศรษฐกิจให้ได้อย่างแท้จริง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่มี “ลุงป้อม – พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี” เป็นประธานการประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้ง “สถาบันมวยไทยแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มวยไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและสามารถเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นได้ตามเป้าหมาย…
nn ส่วนเรื่องแนวคิดให้บรรจุมวยไทยเป็นวิชาเลือกในหลักสูตรการเรียนการสอน รวมทั้งฝึกอบรมและจัดเป็นหลักสูตรเฉพาะกรรมการมวย โดยกระทรวงการต่างประเทศรับเป็นผู้ประสานงานในการเผยแพร่และสร้างความเข้าใจกับนานาชาติ ในการส่งเสริมกีฬามวยไทยนั้น ถือเป็นแนวคิดที่ดีที่น่าสนับสนุน“ไม้หน้าสาม” ทราบมาว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี” นั้น เขามีหลักสูตร “ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) สาขาวิชามวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย” ในวิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทยมานานมากแล้ว จนมีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนจนจบปริญญาตรีไปหลายรุ่นแล้ว ไม่ใช่แค่ระดับปริญญาตรีเท่านั้น แต่สามารถผลิตผู้จบการศึกษาตั้งแต่ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรบัณฑิต ปริญญาโทและปริญญาเอก ด้วยซ้ำจึงสมควรศึกษาก่อนที่ครม.จะมีมติส่งเสริมและแถลงให้เป็นที่ขบขันของนักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันเยี่ยงนี้…
nn ไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานนัก เมื่อครั้ง “ครอบครัวเพื่อไทย จัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัยเพื่อไทยมาเหนือ” นำทีมโดยสาวน้อยวัย 35 กะรัต ดีเอ็นเอสัมภเวสีแดนไกล โทนี่ วู้ดซัม “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย“คุณหญิงอ้อ – พจมาน ดามาพงศ์ ภรรยาม่ายสัมภเวสีแดนไกล” และแกนนำพรรคเพื่อไทยในทุกระดับได้ลงพื้นที่พูดคุยหารือกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้งภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ ศิลปะ วัฒนธรรม และกลุ่มเยาวชน โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าหลากหลายนโยบายที่กำลังพัฒนาและได้เปิดตัวไปแล้วนั้นจะช่วยเปลี่ยนชีวิตพี่น้องประชาชนคนยกระดับรายได้โดยเฉพาะนโยบาย “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์ พาวเวอร์” ที่พรรคเพื่อไทยได้เข้าร่วมหารือ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะกับศิลปิน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และนักพัฒนาเมือง ในแวดวงธุรกิจสร้างสรรค์ ที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่…
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “สามารถ ทิพย์ท่าไม้ หรือ สามารถ ภพธีรธรรม” ยอดมวยไทยในอดีตที่แม้จะหันหลังให้เวทีผืนผ้าใบตามสังสารวัฏแล้วแต่ “เพชฌฆาตหน้าหยก – สามารถ พยัคฆ์อรุณ” แชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี 4 รุ่นก็ไม่ได้ทิ้งวิชาที่ฝึกปรือมาชั่วชีวิต เตรียมเปิดค่ายถ่ายทอดวิชาแม่ไม้มวยไทยแก่ลูกหลานไทยและชาวต่างชาติ ให้กีฬามวยไทย ขจรกระจายไปทั่วโลก ที่ “กาญจนบุรี” ดินแดนประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำของชาวยุโรป…
nnอีกราย “วิว – เยาวภา บุรพลชัย เทควันโดสาวจอมเตะอดีตฮีโร่เหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ” หลังขึ้นเวทีชกมวยไทยการกุศลในงานกาชาดแล้ว วิวยังขึ้นแท่นเป็น “โปรโมเตอร์มวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน รายการเลเจนด์ เอฟซี “เลเจนด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์”ด้วย โดยตั้งเป้าให้มวยไทยสู่สากลและถูกบรรจุเป็นอีเว้นท์กีฬาในรายการสำคัญๆ ด้วย นี่แหละคนไทยนักกีฬาไทยคนละไม้ละมือ “มวยไทยสู่มวยโลก” ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก อีกหนึ่ง “ซอฟต์ พาวเวอร์”…nn
ไม้หน้าสาม