ตำนานมวยไทย “สามเอ” จะยังคงรุ่งโรจน์ หรือแทนที่ด้วยนักสู้รุ่นใหม่ – ไทยรัฐ

ตลอดเวลาเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อของ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” เป็นที่รู้จักในฐานะยอดมวยระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบัน เขาคือผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนเดียว ในวัน แชมเปียนชิพ ที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE มาแล้วถึง 3 เส้น และเป็นเจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ยังไม่เคยแพ้ใครในรุ่นน้ำหนักนี้

แต่ตอนนี้ สามเอ กำลังถูกท้าทายอำนาจด้วยการมาของนักมวยน้องใหม่แกะกล่อง “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่ถือว่ามีฝีมือชนิดหาตัวจับยาก ซึ่งประกาศพร้อมรบในศึกใหญ่กลางปีที่มีชื่อว่า ONE: BATTLEGROUND ศุกร์ 30 ก.ค.นี้ โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวตเป็นเดิมพัน

ก่อนที่ สามเอ จะลงศึกป้องแชมป์เป็นครั้งที่สองกับน้องใหม่ พระจันทร์ฉาย เราจะพาทุกท่านย้อนรอยสู่เส้นทางสู่บัลลังก์แชมป์โลกใน วัน แชมเปียนชิพ ของเขา เพื่อจะได้พอเห็นภาพว่าตำนานยอดมวยที่สร้างชื่อมาตลอดชีวิต จะสืบสานความรุ่งเรืองต่อไป หรือถึงเวลาที่รุ่นใหม่จะก้าวขึ้นมาแทน

สามเอ เริ่มชกมวยตอนอายุ 9 ขวบ ในงานวัดแถวบ้านซึ่งโปรโมเตอร์จัดมวยประกาศหาเด็กที่มีน้ำหนักราวๆ เดียวกับเขา สามเอ ซึ่งไม่เคยฝึกฝนวิชามวยไทยมาก่อน อาสาขึ้นชกทันที หลังระฆังดังขึ้น สามเอ สู้ยิบตา จนทำเอาคู่ต่อสู้ร่วงลงไปให้กรรมการนับ 8 ในยกสอง สามเอ ได้รับการชูมือพร้อมรับเงินค่าตัวครั้งแรกเป็นจำนวน 100 บาท ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

กว่าจะได้เป็นแชมป์

หลังชัยชนะในครั้งแรก ต่อมา สามเอ ต้องลิ้มรสความพ่ายแพ้ รวมทั้งพ่อแม่ไม่สนับสนุน แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาบอกพ่อแม่ว่าอยากสู้ต่อ พ่อและแม่จึงให้เขาไปฝึกฝนมวยไทยอย่างจริงจัง และด้วยพรสวรรค์บวกพรแสวงในเวลาไม่กี่ปี สามเอ ก็สั่งสมกระดูกมวยจนผ่านการชก 100 ไฟต์อย่างรวดเร็ว และเข้าสู่การเป็นมืออาชีพอย่างเต็มตัว

แต่กว่าจะได้เข็มขัดเส้นแรกมาครองก็ล่วงเลยจนถึงอายุ 21 ปี อย่างไรก็ตาม สามเอ ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์สถาบันหลักทั้ง แชมป์ลุมพินี, แชมป์ราชดำเนิน, แชมป์ประเทศไทย รวมแล้วถึง 6 เส้น และยังได้รับรางวัลเกียรติยศในฐานะนักมวยยอดเยี่ยมของสยามกีฬาอวอร์ดสองปีซ้อน (พ.ศ.2553-2554)

ตกต่ำถึงขีดสุด

ช่วงหนึ่งของชีวิต สามเอ เคยตกต่ำที่สุดถึงขั้นไปทำงานก่อสร้าง หลังประสบปัญหาภายในค่ายไม่มีเทรนเนอร์ ไม่มีคู่ซ้อม เขาจึงตัดสินใจหันหลังให้วงการผืนผ้าใบ และเรียนรู้ความยากลำบากที่สุดในชีวิตจนเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตา มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่ สามเอ จะตัดสินใจหวนคืนสังเวียนอีกครั้ง ภายใต้สีเสื้อใหม่ “ไก่ย่างห้าดาว” ในราวปี 2554

อย่างไรก็ตาม ช่วงปีหลังๆ สามเอ ประสบปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง และแพ้ติดต่อกันหลายไฟต์ ทำให้เขาท้อแท้อย่างหนักจนตัดสินใจหันหลังให้สังเวียนมวยในปี 2559 แล้วผันตัวไปเป็นครูฝึกสอนที่ยิมอีโวลฟ์ชื่อดังในสิงคโปร์

ไฟไม่สิ้นเชื้อ

ดูเหมือนว่าไฟนักสู้ยังคุกรุ่นอยู่ภายในใจของเจ้าของฉายา “ซ้ายไฟลามทุ่ง” เสมอมา ทันทีที่ สามเอ ได้เห็นความสำเร็จของเจ้าตำนานรุ่นพี่ร่วมวงการอย่าง “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” ที่เคยเป็นถึงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต สามเอ ซึ่งถูกชักชวนให้หวนคืนสังเวียน จึงไม่ลังเลที่จะกลับมาสวมบทบาทเดิม และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ที่เขาได้สร้างไว้บนเวทีระดับโลกตั้งแต่ปี 2561

สามเอ ประเดิมศึกแรกใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนมกราคม 2561 โดยไว้ลายเจ้าตำนานมวยไทยด้วยการชนะน็อกคู่ต่อสู้ชาวอิตาลี “โจเซฟ ลาซิรี” ไปได้อย่างงดงาม ก่อนจะได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกกับ “เซอร์จิโอ วีลเซ่น” และสามารถคว้าชัยสถาปนาขึ้นเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนแรกของรายการในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน

หลังจากนั้น สามเอ ร้างเวทีไปหนึ่งปีเต็ม และขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกเป็นครั้งแรก เขาต้องเสียเข็มขัดให้แก่นักชกเมืองผู้ดี “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ที่มีทั้งความหนุ่มสด ฝีมือดี และมีความกระหายอย่างเปี่ยมล้นที่จะปล้นความสำเร็จ ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จจริงๆ

สาเหตุสำคัญของความปราชัยนี้ มาจากการที่รุ่นฟลายเวต (56.8 – 61.2 กก.) ซึ่ง สามเอ ชกอยู่นั้นใหญ่กว่าน้ำหนักธรรมชาติของเขา แต่ตอนนั้น วัน แชมเปียนชิพ ยังไม่มีรุ่นที่เล็กกว่า ภายหลังที่มีการเปิดรุ่นสตรอว์เวต (53.3 – 56.7 กก.) สามเอ จึงขอลดรุ่นน้ำหนักลงมา โดยจัดน็อกเอาต์ตั้งแต่ไฟต์แรก แก่นักมวยชาวฝรั่งเศส “ดาเรน โรลลอง” ในเดือนตุลาคม 2562

แชมป์โลก ONE สองรุ่น

5 เดือนต่อมา สามเอ เดินหน้าชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ด้วยการกำราบนักชกแดนมังกรจอมซ่า “หวัง จึงกวง” ก่อนจะคว้าเข็มขัดเส้นต่อมาในกติกามวยไทย หลังสอนมวยหนุ่มแดนจิงโจ้ “ร็อกกี อ็อกเดน” ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นนักชกไทยคนเดียวที่ครองแชมป์โลก ONE สองรุ่นในขณะนี้

ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2563 สามเอ เปิดศึกป้องแชมป์โลกครั้งแรกกับผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิง “จอช ทอนนา” จากออสเตรเลีย โดยสามารถยึดบัลลังก์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยจัดน็อกคู่แข่งในยกที่ 3 ประกาศศักดาแชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใครต่อเนื่อง 4 ไฟต์ในรุ่นของตัวเอง

แชมป์โลกชาวบุรีรัมย์ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการมวยมาร่วม 30 ปี ผ่านศึกมากว่า 400 ไฟต์ ในวัย 37 ปีวันนี้ สามเอ จะสืบสานเส้นทางแห่งความรุ่งเรืองต่อไปเป็นไฟต์ที่ 5 ในรุ่นสตรอว์เวตได้หรือไม่ หรือจะถึงเวลาที่จะต้องให้นักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ ต้องรอดู

แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE:BATTLGROUND ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. 64 เวลา 19.30 น. ทาง ONE Super App, YouTube ONE Championship และ AIS PLAY ส่วนไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะออกอากาศในเวลา 21.30 น.