“พระจันทร์ฉาย” เตรียมคืนสังเวียนครั้งแรกในรอบ 8 เดือน พร้อมเปิดศึกภาค 3 แตกหัก “คมเพชร” ในนัดปฐมฤกษ์ ศึก ONE ลุมพินี วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566
หลังจากเฝ้ารอโอกาสมาพักใหญ่ในที่สุด “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” เจ้าของฉายา “ฉายเป็นชุด”เตรียมคืนสังเวียนอีกครั้ง โดยเป็นการเจอคู่ปรับเก่า “คมเพชร ศิษย์สารวัตรเสือ” นักมวยหนุ่มที่ผลัดกันแพ้ชนะมาคนละครั้ง ในศึก ONE ลุมพินี 1 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566
นับตั้งแต่เสียเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (125 ป.) แบบพลิกความคาดหมายในการเจอ “โจเซฟ ลาซิรี” นักมวยชาวอิตาลี-โมร็อกโก ในศึก ONE 157 เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว “พระจันทร์ฉาย” ก็ทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักมาตลอด เพื่อโอกาสกลับมาสู่ วัน แชมเปียนชิพ อีกครั้ง
ยอดมวยวัย 28 ปี ยอมรับว่าความพ่ายแพ้ต่อ “โจเซฟ” ทำให้เขาเรียนรู้ข้อบกพร่องของตัวเองมากขึ้น และมีการปรับแก้เกมการชกเพื่อเตรียมความพร้อมในการเจอกับ “คมเพชร” คู่ต่อสู้เพียงคนเดียวที่เอาชนะเขาได้บนเวทีมวยไทยในประเทศในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
“สำหรับการเตรียมตัวฟิตซ้อมของผมเพื่อขึ้นชกไฟต์นี้เริ่มมาได้ประมาณ 3 เดือน เรียกว่าพร้อมเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน ช่วงที่ผ่านมา ผมเพิ่มโปรแกรมเวตเทรนนิ่งหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และมีการทดสอบสมรรถนะร่างกาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมทั้งการทำกายภาพด้วยครับ”
“นอกจากนี้มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เป็นบึกบึนมากขึ้น ทั้งในส่วนแขน, หลัง และขา ทำให้เวลาโดนเตะต่อยจะไม่ค่อยเจ็บเท่าไร และช่วยให้การออกอาวุธของผมหนักหน่วงกว่าเดิม ตอนนี้ผมรับรู้ได้เลยว่าตัวเองหมัดหนักขึ้นจากการเสริมกล้ามเนื้อช่วงหัวไหล่”
ทั้งคู่เจอกันไฟต์แรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดย “พระจันทร์ฉาย” เป็นฝ่ายพ่ายคะแนน “คมเพชร” แบบพลิกความคาดหมาย ก่อนจะกลับมาล้างตาคืนฟอร์มเก่งเป็นฝ่ายชนะคะแนน ในอีก 3 เดือนถัดมา
“ไฟต์แรกที่ผมแพ้ คมเพชร ผมต่อน้ำหนักให้เขา 3 ปอนด์ เพราะคู่ต่อสู้จริง ๆ ของผมถอนตัวก่อนชกเพียง 3 วัน ช่วงนั้น คมเพชร เป็นมวยที่แข็งแกร่ง ส่วนผมก็กำลังสด แต่ด้วยความเป็นมวยเล็กเจอมวยใหญ่ รวมทั้งองค์ประกอบหลายอย่างในการชกวันนั้นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง”
“สำหรับไฟต์ที่ 2 ผมมีการต่อน้ำหนักให้ คมเพชร เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะต่อ 1 ปอนด์ เป็นการชกที่เวทีลุมพินี คราวนี้ผมชนะขาดเลยครับ เป็นสไตล์เดิมเพราะ คมเพชร เป็นมวยเข่า ต้องเดินบี้ ผมอาศัยการแลกเหลี่ยมสู้กับเขา ผมฟันศอกใส่เขาจนมีแผลแตกด้วยครับ”
การเจอภาค 3 “พระจันทร์ฉาย” จึงมั่นใจว่าการชกในศึก ONE ลุมพินี ในวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 จะต้องสนุกเร้าใจแฟนมวยอย่างแน่นอน โดยเขาก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าการเจอกับ “คมเพชร” ครั้งนี้จะจบแบบไม่ครบยกหรือต้องตัดสินด้วยคะแนน
“ผมคิดว่ารูปเกมการชกไฟต์นี้ต้องสนุกแน่นอน จะครบยกไม่ครบยก ใครจะชนะคะแนนหรือแพ้คะแนน เราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ เป็นไฟต์ที่ไม่ง่าย และไม่ยากสำหรับตัวผม และคมเพชร ไม่มีใครเก่งไปกว่าใคร นักมวยทุกคนรู้ว่าการใช้นวมเล็ก ต่อให้เก่งแค่ไหน หากพลาดขึ้นมาก็แพ้ได้เลยครับ”
“เหมือนที่พี่ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน เอาชนะ มารัต กริกอเรียน ก่อนหน้าการชกใครก็มองว่าพี่เขาสู้ไม่ได้ และเคยโดน มารัต น็อกมาก่อน แต่พี่ซุปเปอร์บอน พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นผู้ชนะพร้อมลบคำสบประมาทของทุกคน มวยไทยไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุดครับ”
สำหรับนัดปฐมฤกษ์ ศึก ONE ลุมพินี ในวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง http://bit.ly/3YWaao3 โดยคู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ตั้งแต่เวลา 20.30 น.
อ่านเพิ่มเติม:
- “พระจันทร์ฉาย – ตะวันฉาย” ความผูกพันดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด
- น้ำตาแทบไหล “พระจันทร์ฉาย” เปิดอกเมื่อได้ฤกษ์จรดปากกาซบ ONE คือวันนี้ที่รอคอย!
- ตามรอยชีวิต “พระจันทร์ฉาย” อัจฉริยะมวยไทยสร้างได้จากค่ายมวยที่บ้าน