“ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” – ไทยรัฐ

หนีไม่พ้นวีรกรรม วีรเวร “มวยล้มต้มคนดู” ของ “ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” นักมวยดาวรุ่งชื่อดัง ที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา หลังการชกในรายการ “ทรูโฟร์ยู มวยมันส์วันศุกร์” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

ถ้าใครจำได้ ฟ้าวันใหม่ หรือชื่อดั้งเดิม “เจ้าต่อทอง เทศบาลเขาบางแกรก” อดีตมวยดังเดินสายชกแถวเมืองปากน้ำโพ นครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี และพื้นที่ใกล้เคียง 

ซึ่งสร้างตำนาน “สีเทา” ไม่ว่าจะเป็นการล้มมวย ติดยา หรือแม้กระทั่งสวมวิญญาณ “นักเลงมวย” แล้ว “ชักดาบ” จนเกือบโดน “เซียนมวย” รุมกระทืบ ณ เวทีมวยรังสิต เมื่อไม่นานที่ผ่านมา

เผอิญ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วิชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์มวย เจ้าของรายการทราบเรื่องซะก่อน ได้เข้าไปขอร้องและเคลียร์เรื่อง จนเป็นที่พอใจด้วยกันทุกฝ่ายในคืนนั้น

ส่งผลให้ “ต่อทอง เทศบาลเขาบางแกรก” จากลุ่มน้ำสะแกกรัง เมืองอุทัยธานี กลายเป็นเจ้าของสถิติ 10 ล้านกว่าวิว ในเวลาชั่วข้ามคืน

ส่งผลให้ “ต่อทอง เทศบาลเขาบางแกรก” ได้รับโอกาสกลับเนื้อกลับตัว ฟอกขาวให้กลับมาขึ้นชก บนสังเวียนมวยไทยได้อีกครั้ง 

ภายใต้การตัดสินใจครั้งสำคัญของ “เสี่ยโบ๊ท” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับ และความชื่นชมจากแฟนมวยทั่วประเทศ ในความมีน้ำใจและ “กล้า” เอาชื่อและเครดิตของตนเอง เป็นการันตี

ต่อทอง เทศบาลเขาบางแกรก จึงพะชื่อและสีเสื้อใหม่เป็น “ฟ้าวันใหม่ เสน่ห์ลักษณ์ทัวร์” ขึ้นชกราวี ที่วิกมวยรังสิต เพียงแค่นัดแรกได้รับค่าตัวสูงถึง 10,000 บาท พร้อมกับเงินรางวัลจากแฟนมวย ที่รวบรวมกันมอบให้ หลังประสบชัยชนะคู่ชกลงมาอีก 80,000 บาท  

เมื่อข่าวทราบถึง “ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์” สุภาพบุรุษนักเลงแห่งเมืองอุทัย ภายใต้การชี้นำของ “บังมาด” สามารถ มะลุลีม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และทีมงาน

ความที่มีมวยไทยอยู่ในหัวใจอยู่เป็นทุนเดิม ประกอบกับ เจ้าต่อ มีประวัติเป็นเด็กนักมวยจากเมืองอุทัยธานีอยู่แล้ว 

ของเล่นชิ้นใหม่ของ “ป๊ะดา” ชาดา ไทยเศรษฐ์ คือการอ้าแขนรับ เจ้าต่อ ฟ้าวันใหม่ ให้สวมสีเสื้อ “ช.ไทยเศรษฐ์” ด้วยความยินดีและเต็มใจ

ที่สำคัญ ในการขึ้นชกไฟต์ต่อมา ที่เวทีมวยรังสิตของ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์

“ป๊ะดา” ชาดา ไทยเศรษฐ์ ท่านลงทุนควบรถมาจากอุทัยธานี ขึ้นถอดมงคลให้ เจ้าต่อ ฟ้าวันใหม่ ด้วยตนเอง

แม้ผลการชกแข่งขันวันนั้น ไม่สู้จะเป็นที่พอใจเพราะ ฟ้าวันใหม่ ทำได้แค่เพียงเสมอกับคู่ชกแบบหืดขึ้นคอ

แต่กระนั้น ส.ส.ชาดา ก็ยังอุตส่าห์ให้ “ทิป” 10 กำปั้น หรือหนึ่งแสนบาท

จากนั้น มวยภูธรค่าตัวเพียงแค่ไม่กี่พันบาท ได้โอกาสทองของชีวิตใหม่

ฟ้าวันใหม่ มีรายได้ให้กับตนเองเ บ็ดเสร็จแล้วไฟต์ละแสน

ไร่นาที่พ่อไปจำนองไว้ก่อนตาย “เจ้าต่อ” ฟ้าวันใหม่ ได้เงินไปถ่ายคืนจนหมดสิ้น

แต่เมื่อถึงห้วงที่โควิดแพร่ระบาดสุดขั้ว มวยอดชกกันทั่วทั้งประเทศ เจ้าต่อฟ้า หันไปเอาดีทางขายน้ำพริกออนไลน์ จนกระทั่งเจอดี

พ่อค้าควายคนดังจากนครนายก ติดต่อเจ้าต่อขอซื้อน้ำพริกใ นจำนวน 2,000 บาท แต่โอนเงินให้มากถึง 5,000 บาท ด้วยข้ออ้างว่าเป็นแฟนคลับฟ้าวันใหม่ 

พอทางบุรีรัมย์อนุญาตให้จัดมวยได้ “เพชรยินดี” ก็ได้รับเทียบเชิญ ให้ยกทีมไปปักหลักจัดมวยที่นั่น 

แน่นอนว่า ต้องมีชื่อ “ฟ้าวันใหม่” ขึ้นรายการมวยมันส์วันศุกร์ด้วย กับคู่ชก หลานย่าโม ว.วัฒนะ

เจ้าพ่อค้านายหน้าค้าควายรายเดิม ก็ติดต่อมาถึงฟ้าวันใหม่

คราวนี้ สั่งน้ำพริกมากถึง 5,000 บาท พร้อมกำชับว่า ไม่ต้องส่งให้เปลืองตังค์ เพราะตนจะไปทำธุระพอดี นัดเจอส่งมอบกันที่หนองฉาง ซึ่งฟังแล้วใคร ๆ ก็ว่าดูดี

แต่เมื่อได้เวลานัด เจ้าพ่อค้าควายบอกให้ ฟ้าวันใหม่ ไปส่งของที่รถ แล้วขอคุยด้วย พร้อม ๆ กับเปิดการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ เจ้าต่อ “ล้มมวย” ในการชกกับ หลานย่าโมในยกที่ 4 

ด้วยค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 500,000 บาท โอนเงินมัดจำกันให้ก่อนล่วงหน้า ก่อนชก 30,000 บาท

เป็นตัวเลขสูงลิ่ว… ที่นักมวยดังระดับประเทศ ยังจ้างล้มกันไม่ถึงเท่านี้ 

“เจ้าต่อ ฟ้าวันใหม่” ต่อให้เก๋า ประสบการณ์มากกว่าเด็กนักมวยรุ่นเดียวกันเพียงไร ก็ย่อมใจอ่อนตกลงยอมรับ

พอวันชก 3 ยกแรก ฟ้าวันใหม่ ฉายแววพระเอก 

จนมาขึ้นต้นยก 4 จากมวยฝีมือที่ชกออกลีลาอยู่วงนอก ก็เปลี่ยนเป็นเข้าวงใน เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ชก ใช้อาวุธเผด็จศึก คือหมัดหรือศอก

แล้วภาพการชกก็เป็นไปตามนั้น… หลานย่าโม สับศอกขวาถากขมับใบหู แต่คนดูกับกรรมการเห็น ฟ้าวันใหม่ ค่อยๆ รูดหล่นลงกองบนพื้นเวที แถมมีลูกชักดิ้นชักงอ.. แถไปหาเชือกขอบสังเวียน แบบหมดสภาพ 

ขนาด “เฮียหนุ่ม” กรรชัย เจ้าของรายการ “โหนกระแส” ยังออกปาก อยากให้ตุ๊กตาทอง “เจ้าต่อ ฟ้าวันใหม่” ให้รู้แล้วรู้รอด

อย่างไรก็ตาม ที่กระบวนการทิ้งตัวล้มมวยของเจ้าต่อ ไม่สามารถผ่านสายตาของ เพชรยินดีตัวพ่อ “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ไปได้ แม้กรรมการจะชูมือให้คู่ชกไปแล้วก็ตามที

ประกาศิตจาก “นายใหญ่” ของเพชรยินดี ถึงทีมงาน ให้มีการสอบสวนที่ห้องพักนักมวยหลังเวที จนผู้ร้ายปากแข็ง เจ้าต่อฟ้าวันใหม่ ยอมรับสารภาพหมดไส้พุง

ความผิดตาม พรบ.มวย 2542 มาตราที่ 59 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 48, 49 หรือ 50 ซึ่งหมายถึงการจ้างวานให้ล้มมวย หรือ ล้มมวย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

งานนี้นอกจาก ฟ้าวันใหม่ ที่ “ซวย” แล้ว 

เจ้าพ่อค้ากระบือวัวควาย นครนายก จะยิ่ง “ดับเบิ้ลซวย” เป็น 2 เด้ง

เด้งแรก ลำพังแค่ “ยี่ห้อซุ้มเพชรยินดี” ก็เหลือรับประทาน บานทะรูดแล้ว 

ยังทะลึ่งกระตุกหนวดเสือ “ป๊ะดา” ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ อย่างไม่ไว้หน้า ท่านเจ้าของบ้านใหญ่เมืองอุทัยธานีเข้าซะอีก

เด้งสอง เป็นครั้งแรกนับแต่มีการประกาศใช้ พรบ.มวย 2542 นอกจากสื่อและโซเชียล ให้ความสนใจกัน ทะลัก ทะลวง ทะลุไส้ กับกรณีจ้างวาน และล้มมวยของเจ้าของสถิติ 10 ล้านวิว

เจ้าทุกข์ผู้เสียหาย ยังเดินสายแจ้งความทั้งที่อุทัยธานี บุรีรัมย์ โดยไม่ลืมเข้าแจ้งความกับนายทะเบียน และผู้อำนวยสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย แบบเอากันให้ตายไปข้าง

ที่สำคัญทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ทีวี ยังมีการเชิญออกรายการมิรู้จบสิ้น

ยิ่งสื่อโซเชียล ยิ่งไม่ต้องพูดกัน

ไอ้ใครที่หลับหูหลับตาด่า  “เสี่ยโบ๊ท” ว่าเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ควรที่จะเขกกบาลตัวเองซะ 3 โป๊ก แล้วยอมรับซะโดยดีว่า รู้น้อยแถมยังทะลึ่งอีกตะหาก!!

ถึงตรงนี้ชีวิตและอนาคตบนสังเวียนเลือดของ “ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์” จะไปต่ออย่างไร.. คงเดาได้ไม่ยาก

นอกจากจะมีปาฎิหาริย์ หรือประกาศิตจาก “บ้านใหญ่แห่งเมืองอุทัย” และซุ้มเพชรยินดีเท่านั้น

“เจ๊ไก่” วรายุทธ หรือ “พี่หนุ่ม” กรรชัย สนใจอยากเอาไปทำเป็นละครทีวี

ผมอาสาเขียนบทให้ฟรี ๆ เลยสิ…เอ้า!!!