“บิ๊กตุ๋ย” นาย ศิวดล ชวลิตปรีชา อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และ อดีตผู้สื่อข่าวกีฬาอาวุโสไทยรัฐ ถึงแก่กรรมด้วยมะเร็งโรคร้าย และเส้นเลือดในสมองตีบด้วยวัย 76 ปี หลังจากต่อสู้กับอาการป่วยนอนติดเตียงในช่วงบั้นปลายของชีวิตมานานหลายปี ก่อนถึงสิ้นลม เมื่อเช้าวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2564
นาย ศิวดล ถือเป็นสื่อบุคคลในวงการกีฬา เคยได้รางวัลเชิดชูเกียรติ รางวัลบุคลากรทรงคุณค่า แม้ในช่วงบั้นปลายที่ล้มป่วยยังมีคนสำคัญในวงการกีฬาให้ความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ตามประวัติ
เป็นสื่อกีฬาจาก กราวกีฬาไทยรัฐ นามปากกา “คุณตุ๋ย” ได้รับเลือกเป็น นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย คนที่ 8 และครองตำแหน่งนายกสมาคมฯ มายาวนานถึง 30 ปี ก่อนจะลงจากเก้าอี้ด้วยการสละตำแหน่งอย่างเต็มภาคภูมิ เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มทรุดโทรม และเปิดโอกาสให้สื่อรุ่นน้องอย่าง นายเลอภพ โสรัตน์ เลขาธิการสมาคมฯ ก้าวขึ้นมารับช่วงคนต่อไป
บิ๊กตุ๋ย มีผลงานโดดเด่นสมัยเป็นนายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย คือการจัดงาน “วันนักกีฬายอดเยี่ยม” เป็นประจำทุกปี ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานถ้วยรางวัล ให้แก่ รางวัลนักกีฬาชาย-หญิงยอดเยี่ยม และ นักมวยไทยยอดเยี่ยม พานักกีฬาเข้ารับรางวัลจากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
โดยส่วนตัว บิ๊กตุ๋ย เป็นบุคคลเอื้อเฟื้อน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ สื่อมวลชนรุ่นน้องและผู้ใกล้ชิดมากมาย จนถึงบั้นปลายของชีวิตแม้ยามเจ็บป่วย ช่วงสามปีสุดท้ายยังต้องนอนติดเตียงอยู่กับบ้าน ยังได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลแวดวงกีฬามากมาย
รวมทั้ง “บิ๊กเหม็น” นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการ และตัวแทนสื่อมวลชนสายกีฬาสำนักต่างๆ ยังเคยร่วมเดินทางไปมอบรางวัลบุคคลทรงคุณค่าสื่อมวลชนกีฬาให้กับ “คุณตุ๋ย” ในวัย 74 ปี หลังตรากตรำทำงานด้านวงการสื่อกีฬามากว่า 50 ปี
กระทั่ง นาย ศิวดล ชวลิตรปรีชา ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่ โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อเช้าวันพฤหัสฯที่ 11 มีนาคม 2564 กำหนดสวดพระอภิธรรม ที่ วัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) ศาลา 12 วันที่ 12-16 มี.ค.64 เวลา 18.00 น. และ พระราชทานเพลิง วันพุธที่ 17 มี.ค.64 เวลา 16.00 น.