เดฟ เลอดุ๊ก มวยฝรั่งหมาบ้าหิวแสง เริ่มแว้งกัดพม่าแล้ว !! – ข่าวสด

จากกรณี มวยฝรั่งหิวแสงนาม เดฟ เลอดุ๊ก (Dave Leduc) ชาวแคนาดา (ไม่ใช่ เล ดั๊ก) หลังโดนกระแสมวยทั้งไทย และ พม่า ประณามถึงพฤติกรรมสุดถ่อย ต้องการโปรโมทตัวเอง แต่กลับเหยียดหยามศักดิ์ศรี วิชามวยไทย ด้วยหวังจะชู เลธเว่ย (Lethwei) มวยคาดเชือกสไตล์พม่า ตามที่เป็นข่าวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดยังไม่สำนึกตัว กลับเริ่มออกลาย แว้งกัดวงการมวยพม่าผ่านโลกโซเชียลแล้ว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

นับจาก เลอดุ๊ก นักชกแคนาดา ซึ่งมีดีกรีแชมป์โลก เวธเว่ย หรือ “มวยคาดเชือกพม่า” แต่ช่องทางหากินเริ่มตีบตันไร้คู่ชก ที่สำคัญยังเป็นช่วงบ้านเมืองในพม่าเกิดความวุ่ยวายต่อต้านเผด็จการ นอกเหนือจากวิกฤตไวรัสโควิดระบาดทั่วโลกแล้ว นักชกแคนาดาอย่าง เลอ ดุ๊ก จึงหิวแสงด้วยการโพสต์ข้อความ เหยียดหยามวิชามวยไทย แถมขุดประวัติศาสตร์ชาติไทย อย่างตำนาน นายขนมต้ม ขึ้นมาวิจารณ์อย่างหยาบคาย ว่าเป็นลูกหลานโสเภณี และอาจไม่มีตัวตนอยู่จริงอีกด้วย พร้อมพาดพิงไปถึง ยอดมวยไทยแห่งยุค อย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ อันเป็นเป้าหมายหวังทำเงินก้อนโต แต่ยอดมวยไทยคนดัง เป็นมวยรุ่นเล็กกว่า ตามพิกัดต้องแบกน้ำหนักไม่น้อยกว่า 10 กิโลกรัมขึ้นไป จึงถูกเฉยเมยไม่แยแสสนใจ

กระทั่งโปรโมเตอร์ไทยชื่อดังอย่าง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เห็นบทความดังกล่าวทางโลกโซเชียล จึงออกมาประณามพฤติกรรมหิวแสงของ เลอดุ๊ก ซึ่งถือว่า เป็นคนเนรคุณ ที่เคยมาศึกษาวิชามวยไทยและขึ้นชกอยู่ในเมืองไทยนานหลายปี แต่กลับไม่สำนึกในบุญคุณและวิชามวยไทย ก่อนจะเดินทางไปพม่า และร่ำเรียนมวยเลธเว่ย

ข่าวดังกล่าวสร้างกระแสความไม่พอใจจากแฟนมวยชาวไทยเพียงข้ามวัน ทางสมาพันธ์มวยพม่า โดยตัวแทนประจำประเทศไทยอย่าง นาย ตัน ซินดู ออกมาแสดงจุดยืนว่า ทางสถาบันฯไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมอันน่ารังเกียจดังกล่าวของ เลอดุ๊ก รวมทั้งการดูถูกรากเหง้าวิชามวยไทยแต่โบราณ ที่มีความเป็นมาใกล้เคียงกับมวยพม่า และต้องให้ความเคารพแก่กัน

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้แทนสมาพันธ์มวยพม่า ยังได้เรียกร้องให้ เซ ธิฮา ประธานสถาบันแชมป์โลก เลธเว่ย (World Lethwei Championship)ออกมารับผิดชอบ พร้อมแก้ปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของแชมป์โลกฝรั่งในสังกัดของตนโดยด่วน จนได้มีการประกาศลงโทษไปแล้ว

ในขณะที่ทางเมืองไทย นอกจาก เสี่ยโบ๊ท และ โฆษกกระทรวงวัฒนธรรม จะออกมาเรียกร้องให้ทางการไทย มีมาตรการตอบโต้แล้ว แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากองค์กร หรือแม้แต่ กระทรวงการต่างประเทศของไทย จนถึงขณะนี้

ทว่า ล่าสุด ตัวของ เดฟ เลอดุ๊ก ยังแสดงพฤติกรรมหมาบ้า เริ่มขยับออกมาตอบโต้ โดยไม่ยอมรับรู้สึกนึก ซ้ำยังทวงบุญคุณด้วยการโพสต์ข้อความว่า

“มีคนพยายามโจมตีผมในเรื่องที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อน มันเป็นเพียงกลุ่มคนเก่าๆ จากสมาพันธ์ที่ไม่ชอบผม เพราะผมเป็นคนเอาจริง และเป็นคนที่พูดตรงมากเกินไป”

“ผมต่อสู้เพื่อชาวพม่าทั้ง 55 ล้านคน ไม่ใช่เพียงแค่ 10 คน ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อช่วยให้ เลธเว่ย เติบโตในสิ่งที่ควรจะเป็น ผมทำให้เลธเว่ย มีชื่อเสียงมากขึ้น และทำให้การตลาดเติบโตมากขึ้นในพม่าตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามากกว่าที่พวกเขาทำตลอด 25 ปีที่ผ่านมาเสียอีก”

นักชกฝรั่งหิวแสง ดีกรี แชมป์ครุยเซอร์เวต วัย 29 ปี กล่าวอีกว่า

“ส่วนที่ตลกที่สุดก็คือพวกเขาคิดว่าพวกเขามีอำนาจ แต่เปล่าเลยเพราะพวกเขาไม่ได้เป็นสหพันธ์โลก แต่ฝ่ายที่มีอำนาจมากที่สุดคือ สหพันธ์เลธเว่ยโลก (World Lethwei Federation) ต่างหาก” แชมป์เลธเหว่ยโลก WLC รุ่นครุยเซอร์เวต กล่าว

เดฟ เลอดุ๊ก เป็นนักมวยที่มีความสูงถึง 188 ซม. และเป็นมวยรุ่นครุยเซอร์เวต มวยรุ่นใหญ่จึงมีความได้เปรียบคู่ต่อสู้หลายต่อหลายราย เคยมาเรียนวิชามวยไทยที่ภูเก็ต กับค่ายใหญ่อย่าง ไทเกอร์ และขึ้นชกหลายไฟต์ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ เป็นมวยมีอาวุธครบเครื่องทั้งลูกถีบ ต่อยหมัด โยนเข่า รวมทั้งศอกกลับ จึงเอาชนะนักชกต่างชาติด้วยกัน รวมทั้งนักมวยไทยที่ขึ้นชกในสภาพอ้วนฉุ เนื่องด้วยสรีระของนักมวยไทยที่แทบไม่มีมวยใหญ่ และต้องขึ้นชกในรูปแบบแบกน้ำหนัก หรือไม่ก็เป็นนักมวยเก่าที่เลิกราหมดสภาพไปนาน

หลังจาก เลอดุ๊ก ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ในพม่า ร่ำเรียนมวยเลธเว่ย ซึ่งแตกต่างจากมวยไทยตรงที่ให้หัวโขกคู่ต่อสู้เอาดื้อๆจนถึงสลบเหมือดได้ แต่มวยเลธเว่ย ก็ยังไม่ได้เป็นศิลปะการต่อสู้ที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากลงทุนจัดกันเองในญี่ปุ่นเพียงไม่กี่ครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ล่าสุดจากการสอบถามไปยัง “เสี่ยโบ๊ท” โปรโมเตอร์หนุ่มของไทย เปิดใจเรื่องนี้ว่า “จริงๆผมพยายามประสานงานไปทางประธานของเลธเว่ยแล้ว ด้วยการส่งอีเมลล์ไปที่พม่าหลายฉบับ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า ทางองค์กรของเขาประกาศลงโทษ เลอดุ๊ก แล้วด้วยมาตรการ 3 ข้อเบื้องต้น คือ 1. ใส่ชื่อติดแบล๊กลิสต์ 2.แบนห้ามชก มวยเธเว่ย 2 ปี และ 3. แจ้งไปยัง ประเทศไซปรัส เพิกถอน การทำหน้าที่ ทูตเลธเว่ย ของ เลอดุ๊ก”

โปรโมเตอร์ณัฐเดช กล่าวต่ออีกว่า “นอกจากทางพม่าจะลงโทษแล้ว เขายังถามกลับมายังผมอีกว่า แล้วทางไทยมีมาตรการลงโทษอย่างไรบ้าง ช่วยแจ้งให้เขาทราบ เพื่อจะได้มีแนวทางร่วมกัน ??”

“ซึ่งผมก็ตอบเขาไม่ได้ เพราะหลังจากผมนำเสนอข่าวเรื่องนี้ออกไปเป็นคนแรก ก็เห็นมีแต่ข่าวจากทางโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ออกมาเรียกร้องและจะทำหนังสือประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ให้แบน เลอดุ๊ก แต่พอเอาเข้าจริง เรื่องก็เงียบ..!!”

เสี่ยโบ๊ท กล่าวอีกว่า “จริงๆแล้ว เรื่องราวทั้งหมด สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ควรจะต้องเป็นฝ่ายออกโรง เป็นตัวตั้งตัวตี ออกมาเรียกร้องเป็นตัวแทนคนไทยทั้งหมด แต่ก็เงียบ ลำพังตัวผมคนเดียวทำได้แค่นี้ ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกดีใจ ที่คนพม่าเขายังรับฟังเสียงของผมบ้าง”