เทรนเนอร์ขาโหดที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “ซุปเปอร์บอน” ยันนักมวยหนุ่มมีแววตาแห่งความมุ่งมั่นที่จะสำเร็จ บวกกับพื้นฐานมวยแน่น ไม่ว่ากติกาไหนในรุ่นเฟเธอร์เวต ก็พร้อมชนได้หมด
วันที่ 5 ก.ค. 64 ความเคลื่อนไหวของ “ซุปเปอร์บอน” มวยยอดฝีมือจากพัทลุงที่ประสบความสำเร็จในด้านการชกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งมาแล้วมากมายหลายเวทีระดับโลก การันตีด้วยตำแหน่งแชมป์จากหลายสถาบัน เพิ่งเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ เพียงแค่ไฟต์เดียว แต่ได้โชว์ให้เห็นความร้ายกาจ ด้วยการกำราบคู่ปรับเก่าอย่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ลงได้ ทำให้ ซุปเปอร์บอน สามารถคว้าฟาสแทร็กทะลุแรงกิ้งอันดับสอง ทั้งกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 กก. – 70.3 กก.) ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ณ เวลานี้
นักมวยเก่งย่อมต้องมีครูดี สำหรับ ซุปเบอร์บอน มีบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้อันยอดเยี่ยม นั่นคือ “เทรนเนอร์เก” เทรนเนอร์คู่ใจที่เป็นทั้งครู คู่ซ้อม และที่ปรึกษาคนสำคัญตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา
เทรนเนอร์เก หรือชื่อจริงว่า “นายสุทัศน์ ม่วงมัน” ปัจจุบันอายุ 43 ปี เป็นคนนครสวรรค์โดยกำเนิด ในอดีตเขาคือนักมวยเก่า เจ้าของสมญา “แสนศักดิ์ ว.ทวีเกียรติ” ก่อนผันชื่อใหม่เป็น “ลิงลม ว.วลาพล” น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาจากการชกมวย จำต้องแขวนนวมไปเมื่ออายุราว 20 ต้นๆ เท่านั้น และหันมาเป็นโค้ชคนเก่งที่นักมวยทุกคนรู้จักอย่างทุกวันนี้
เทรนเนอร์เก ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทรนเนอร์ขาโหด ที่สามารถกระตุ้นนักมวยให้ผ่านบททดสอบอันโหดหินแต่ละบท โดยไม่ปล่อยผ่านง่ายๆ ที่สำคัญเขาเป็นคนเลือกลูกศิษย์ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เขาจะจับเป้าให้ แต่สุดท้ายก็รับ ซุปเปอร์บอน โดยเหตุผลที่เขามองเห็นแววตาอันมุ่งมั่นในการเป็นนักสู้ที่ฉายชัดในตัวนักมวยหนุ่มคนนี้
“ผมรู้จักกับ บอน (ซุปเปอร์บอน) ตั้งแต่ที่เขายังชกมวยอยู่ที่ค่ายเดิม ลูกเจ้าแม่สายวารี ของคุณพ่อเขาครับ เราเจอกันอยู่เรื่อยๆ ครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าก่อนหน้านี้เขาซ้อมมาหนักแค่ไหน ผมชอบนักมวยที่มีวินัย มีใจที่อยากจะชนะ ซึ่งเขามีครบทุกอย่าง มันไม่ใช่แค่ บอน ที่เลือกผม ถ้าผมต้องจับเป้าให้ใคร นักมวยคนนั้นต้องมีความมุ่งมั่นที่มากพอ เงินเป็นเรื่องรอง แต่ผมต้องมั่นใจที่จะผลักดันใครสักคน ต้องให้เห็นผลงานก่อนครับ”
“สไตล์ที่โดดเด่นของ บอน คือ มวยฝีมือ ชกยาก มีลูกจุกจิก โดยที่มีพื้นเพมาจากมวยเข่า กระดูกมวยแข็งแรงตั้งแต่เด็ก เตะตามน้ำ เก็บอาวุธเก่ง และใช้ได้ดีทั้งสองแข้ง”
“ก่อนหน้าจะมาเจอผม บอน ป้องกันตัวเองน้อยเกินไป โดยเฉพาะการกันหมัด ผมต้องสอนให้เขารู้จักการใส่หมวกกันน็อก เพราะใส่แล้วดีกว่าแน่นอน ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการเสริมความฟิต ซ้อมให้ชินกับอาวุธที่เขาต้องเจอจากคู่ชกในแต่ละไฟต์ เราจะศึกษาคู่ชกก่อนว่าเขามีอะไรบ้าง ทีเด็ดคือลูกไหน แล้วผมก็จะเอาอาวุธเหล่านั้นนั่นแหละครับ มาซ้อมชกกับเขา”
ด้วยน้ำหนักตัวของเทรนเนอร์เก 95 กก. นั่นหมายความว่าในทุกๆ วันของ ซุปเปอร์บอน จำต้องฝึกซ้อมกับคู่ต่อกรรุ่นใหญ่กว่าเขา 20+ กิโลกรัม ตลอดเวลา หรือบางทีนี่อาจจะเป็นเคล็ดลับเสริมแกร่งของเจ้าตัวก็ได้
สำหรับตัวโค้ชเอง เขามองว่าศิษย์รักมีโอกาสได้เฉิดฉายใน วัน แชมเปียนชิพ อย่างแน่นอน จะด้วยมวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง หรือทั้งสองอย่าง ขอเพียงแค่มีเวลาเตรียมตัว ซุปเปอร์บอน ก็พร้อมที่จะชนกับใครก็ได้ในรุ่นเฟเธอร์เวต
“ไม่ว่าจะเป็น มารัต กริกอเรียน, จอร์จิโอ เปโตรเซียน หรือแม้กระทั่ง เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี สำหรับ บอน นี่คือสบายๆ ครับ ขอแค่มีเวลาเตรียมตัวสักสองเดือน ทีมพร้อมซ้อมถึงไหนถึงกันครับ ยิ่งถ้าเป็นกติกามวยไทย เขาคือมวยเข่าอาชีพ มีลูกนำที่ดี ปรับไม่นานก็ชกได้ พื้นฐานแน่นอยู่แล้วครับ”