ไม่ถึงฝั่งฝัน “ท็อปน้อย กิวรัมย์” / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

พลาดท่าอย่างน่าเสียดายสำหรับนักสู้ไทยวัย 30 ปี “ท็อปน้อย กิวรัมย์” หรือชื่อในวงการมวยไทยว่า “ทนงศักดิ์เล็ก ชูวัฒนะ” ที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมรายการ “โร้ด ทู ยูเอฟซี” เพื่อคัดเลือกนักสู้ MMA ฝีมือดีจากเอเชีย เข้าร่วมสังกัดกับโปรโมเตอร์ศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างค่าย “ยูเอฟซี” ที่ต้องการเปิดตลาดในเอเชียมากขึ้น โดยนักสู้จากบุรีรัมย์รายนี้ได้โอกาสเข้าร่วมคัดเลือกในรุ่นฟลายเวท และฝ่าฟันมาได้ถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะจบเส้นทางแค่นี้ในการต่อสู้ที่ยาส ไอส์แลนด์ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เมื่อค่ำๆ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาท็อปน้อยเคยขึ้นสังเวียนในรายการ Full Metal Dojo และรายการใหญ่ในญี่ปุ่นอย่าง Rizin มีสถิติสู้ในแบบ MMA มา 11 ไฟต์ ชนะ 8 แพ้ 3 โดยชนะมาในแบบน็อกเอ๊าท์ 5 ครั้ง ชนะคะแนน 3 ครั้ง ส่วนที่แพ้ก็แพ้คะแนน 2 ครั้ง แพ้น็อก 1 ครั้ง เรียกว่าไม่เคยถูกจับ “ซับมิชชั่น” จนต้องยอมแพ้ และก็ไม่เคยจับล็อกคู่ต่อสู้จนยอมแพ้เลย เมื่อวันอาทิตย์ขึ้นเวทีเจอของแข็งจากเกาหลีใต้ ปาร์ค ยุน ซุง ที่ชนะรวดมา 6 ไฟต์ ก่อนสู้นักสู้ไทยเรียกเสียงฮือฮาในช่วงการเผชิญหน้ากันในระหว่างการชั่งน้ำหนัก ด้วยการยกนิ้วกลางทั้งสองมือให้คู่ต่อสู้สร้างสีสัน ก่อนที่นักสู้เกาหลีจะยกนิ้วตอบทั้งสองมือเช่นกัน แลกกล้วยกันคนละ 2 ใบ พอขึ้นเวทีทนงศักดิ์เล็กทิ่มหมัดส่งปาร์ค ยุน ซุง ร่วงลงไปก่อน แต่ไม่ตามไปซ้ำยืนเรียกให้ลุกขึ้นมาสู้ต่อ นักสู้เกาหลีลุกขึ้นมาตั้งตัวได้ไม่ฟังเสียงลากเราลงไปเล่นเกมบนพื้นทันที แม้ท็อปน้อยจะพยายามยันตัวกลับขึ้นมา แต่ทำให้นักสู้เกาหลีได้ขึ้นขี่หลัง และดึงเราหงายหลังลงไปล็อกคอในท่า “เรียร์-เน็คเก็ด-โช้ค” ทันที ท็อปน้อยต้อง “แท็ปเอ๊าท์” ยอมแพ้ไปด้วยเวลา 3:15 นาทีของยกแรก จบเส้นทางฝันสู้ UFC แค่นี้

งานนี้ก็ต้องบอกว่าเกมบนพื้นยังเป็นของแสลงของนักสู้ MMA ไทยโดยเฉพาะที่มาจากสายมวยไทยจริงๆ จะเห็นว่าท็อปน้อยป้องกันตัวในเกมนอนไม่ดี และพยายามรีบลุกจนเสียเปรียบ ในรอบแรกที่ผ่านมาก็มีรูปแบบเดียวกัน คือทิ่มคู่ต่อสู้ถลาล้มลง แต่ไม่ตามไปซ้ำ ยืนเรียกให้ลุกขึ้นมาสู้กันใหม่ จนถูกลากลงพื้น และเกือบถูกล็อกคอจากด้านหลัง แต่ยังอาศัยความแข็งแกร่งงัดแขนคู่ต่อสู่ออกได้ พอพยายามรีบลุกก็หันหลังให้คู่ต่อสู้จนเสียเปรียบ แต่ยังเอาตัวรอดจนชนะคะแนนมาได้ มาไฟต์นี้เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแรงแกะไม่ออก พอรีบลุกก็โดนงัดจนตัวหงายเปิดคอให้เขาล็อกทันที ท็อปน้อยถือเป็นนักมวยไทยที่ไปคลุกคลีกับวงการ MMA มาหลายปี แต่เกมบนพื้นยังทำได้ไม่ดี แบบนี้ต้องบอกจริงๆ ว่านักสู้ไทยที่หวังจะโลดแล่นในวงการ MMA ต้องซ้อมเกมบนพื้นให้หนักอีกเยอะ

นอกจากนั้นทางท็อปน้อยเองก็สร้างกระแสเสียงแตกเป็นสองทาง ด้วยการสร้างภาพลักษณ์เป็นแบบ “จอมเกรียน” ไม่ว่าจะเป็นการยกนิ้วกลางให้คู่ต่อสู้ หรือการทำท่าที “โชว์ออฟ” อย่างในการต่อสู้ในรอบแรกที่ผ่านมา สู้ๆ อยู่ มีการหันหน้ามาคุยกับพี่เลี้ยง หรือยื่นหน้าไปล่อหลอกคู่ต่อสู้ รวมทั้งขนาดโดนล็อกคออยู่กับพื้น พอกรรมการรักษาเวลาเคาะพื้นส่งสัญญานว่าเหลืออีก 10 วินาที เรารู้ตัวว่า “เอาอยู่” ก็ร้อง “วู้ๆๆ” แบบว่าสนุกๆ ไม่มีอะไร แบบนี้บอกตรงๆ ว่าถ้าชนะได้เรื่อยๆ ได้ไปโลดแล่นอยู่ในสังเวียน UFC จริงๆ ก็อาจจะขายออก เพราะวงการของเขาจะชอบการโอ้อวด ทำตัวเว่อร์ และทำตัวดูถูกเหยียดหยามคู่ต่อสู้ แบบที่เรียกว่า “แทรช ทอล์ก” คือถ่มถุยใส่กัน แต่กับแฟนกีฬาชาวไทย แบบนี้ยังถือเป็นเรื่องใหม่ที่แฟนๆ ทำใจลำบาก ไฟต์นี้เอาจริงๆ หลายคนประกาศเลยว่าไม่เชียร์ หรือแพ้มาก็สมควรแล้ว พอแพ้มาก็จะมีแต่ถูกซ้ำเติม ก็คงเป็นแนวทางที่ท็อปน้อยเลือกแล้ว วันนี้ยังไม่สำเร็จ ถ้ามีโอกาสอีกแฟนๆ ค่อยคอยติดตามกันละกัน