ข่าวคนไทยในออสเตรเลีย วันที่ 19 มิถุนายน 2565 | เดลินิวส์

@@@@ ยกเลิกวัคซีน หน้ากากอนามัย ในสนามบิน ผ่อนคลายมาตรการดูแลผู้สูงวัย ข้อบังคับเกี่ยวกับโควิด-19 ของรัฐวิกตอเรียจะผ่อนคลายลงตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยข้อกำหนดด้านหน้ากาก ข้อบังคับด้านวัคซีน และกฎการแยกตัว ล้วนผ่อนคลายลง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมด กำหนดเริ่มตั้งแต่เวลา 23.59 น. ในวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 โดยจะมีการผ่อนปรนข้อจำกัดเพิ่มเติมในช่วงปลายฤดูหนาว “นี่เป็นการดำเนินการที่สมเหตุสมผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและก้าวหน้า” มาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าว

ตามคำแถลงของคณะกรรมการหลักในการคุ้มครองสุขภาพแห่งออสเตรเลีย Australian Health Protection Principal Committee (AHPPC) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากในสนามบินอีกต่อไป โดยจะยังคงมีผลบังคับใช้ในเที่ยวบิน เช่นเดียวกับการขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่นๆ เช่น รถไฟ รถราง และรถประจำทาง ข้อบังคับด้านวัคซีนในสถานที่ทำงานก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงของรัฐวิกตอเรียถือเป็นปัจจัยสำคัญ ข้อกำหนดของการฉีดวัคซีนเข็มที่สามที่รัฐบาลกำหนดในด้านการศึกษา การกระจายอาหาร การแปรรูปเนื้อสัตว์และอาหารทะเล และที่พักกักกันจะถูกยกเลิก ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษาจะสามารถกลับไปทำงานได้โดยไม่ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่สาม อย่างไรก็ตาม พนักงานในภาคส่วนที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่อ่อนแอ เช่น การดูแลผู้สูงอายุในที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้ทุพพลภาพ การดูแลสุขภาพและบริการฉุกเฉิน จะยังคงต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 3 ครั้ง กฎที่กำหนดให้คนงานทั่วไปต้องทำงานจากที่บ้านเว้นแต่จะได้รับการฉีดวัคซีนสองครั้ง นายจ้างยังคงสามารถกำหนดสภาพการทำงานของตนเองได้ โดยคำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน

ศาสตราจารย์ Catherine Bennett นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัย Deakin กล่าวว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงทั่วทั้งรัฐทำให้คำสั่งก่อนหน้านี้จำนวนมากล้าสมัย “โดยพื้นฐานแล้วไม่มีข้อโต้แย้งที่แท้จริงสำหรับการข้อกำหนดในการรับวัคซีนสองโดส คุณอาจเลือกไปรับเข็มที่ ถ้าคุณมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการตั้งค่าที่มีความเสี่ยงสูง หรือคุณจะยกเลิกข้อกำหนดในตอนนี้เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันสูงในประชากร” ศาสตราจารย์ เบนเน็ตต์กล่าวว่า ขณะนี้นายจ้างสามารถยกเลิกคำสั่งวัคซีนได้ โดยรู้ว่าคนงานส่วนใหญ่จะได้รับการปกป้องจากการเจ็บป่วยที่รุนแรง ประมาณ 68 เปอร์เซ็นต์ของชาววิกตอเรียอายุ 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีน 3 โด๊ส ขณะที่ 94.6 เปอร์เซ็นต์อายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีน 2 โด๊ส

ชาววิกตอเรียที่ตรวจพบเชื้อ COVID-19 จะไม่ถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้านอีกต่อไป ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น กรณีที่เป็นบวกอาจต้องออกจากบ้านเพื่อขับรถให้สมาชิกในครอบครัวไปหรือกลับจากสถานศึกษาหรือที่ทำงานโดยตรงโดยไม่ต้องออกจากรถ ศาสตราจารย์เบนเน็ตต์กล่าวว่าแม้การแพร่กระจายเชื้อยังคงเป็นไปได้กับข้อกำหนดใหม่ การเปลี่ยนแปลงก็สมเหตุสมผล “มันแค่เอาเชื้อเข้าไปในรถกับคนในครอบครัวของคุณ ฉันคิดว่านั่นเป็นข้อเท็จจริงจริง ไม่มีความเสี่ยงจริงๆ เพราะสมาชิกในครอบครัวได้สัมผัสกับบุคคลนั้นอยู่แล้ว” เธอกล่าว กรณีผู้ที่ติดเชื้ออาจออกจากบ้านเพื่อไปรับการรักษาพยาบาลโดยด่วน รับการทดสอบ COVID-19 หรือในกรณีฉุกเฉินรวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย อย่างไรก็ตามข้อกำหนดการแยกตัว 7 วัน จะยังคงมีผลนอกเหนือเงื่อนไขเหล่านี้

รัฐวิกตอเรีย บันทึกผู้ป่วย COVID รายใหม่ 6,601 รายในวันนี้และผู้เสียชีวิต 29 รายทำให้จำนวนผู้ป่วย active ทั้งหมดเป็น 41,216 ราย นายโฟลีย์กล่าวว่าในขณะที่การระบาดใหญ่ยังไม่จบสิ้น การผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัส นายโฟลีย์กล่าวว่า “ตัวเลขโควิดดูเหมือนจะสูงขึ้นและค่อยๆ ลดลง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราพบว่าตัวเลขลดลงเหลือเพียงตัวเลขที่ต่ำในปัจจุบัน ปรากฎการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า ชุมชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างดี เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างปลอดภัยและยั่งยืนเคียงข้างโควิด”

ข้อบังคับเกี่ยวกับโควิด-19 ของรัฐวิกตอเรียจะผ่อนคลายลงตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยข้อกำหนดด้านหน้ากาก ข้อบังคับด้านวัคซีน และกฎการแยกตัว ล้วนผ่อนคลายลง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมด กำหนดเริ่มตั้งแต่เวลา 23.59 น. ในวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565

@@@@ สุดยอดครูมวยไทย 7 คน ทั้งอดีตทีมชาติไทย และแชมป์เปี้ยนมวยไทยในรัฐวิกตอเรีย ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่นี่ และเป็นครูสอนมวยไทยได้จับมือร่วมกันเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้มวยไทยที่นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยร่วมมือร่วมใจจัดการสัมมนา “ซุปเปอร์มวยไทยแคมป์ Super MUAYTHAI’S Seminar #1 -2022 “ โดยจัดขึ้นที่ค่ายมวย Gladiator MUAYTHAI’S gym นำโดย นายแกลน คาสซ่า เจ้าของยิมมวยไทย (Organiser) เป็นเวลา 3 วัน คือ วันที่ 12-13 มิถุนายน 2565 วันละ 6 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นรอบเช้า 3 ชั่วโมงและรอบเย็น 3 ชั่วโมง ในรูปแบบการฝึกซ้อมมวยไทยมืออาชีพและการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการรุก-การรับ แม่ไม้มวยไทย กฎกติกาที่ควรรู้ และการไหว้ครูไทย ถือว่าครบเครื่องเรื่องมวยไทยเลยทีเดียว

สุดยอดครูมวยไทยทั้ง 7 คน ได้แก่ ครูดิ๊บ มวยไทยยิม ครูปืน สมชาย ฉิมรัมย์ อตีดมวยสากลทีมชาติไทยชุดโอลิมปิก ปี 2000 ครูติ่ง มวยไทย วัชรชัย แก้วสัมฤทธิ์ยิม อดีตแชมป์เปี้ยนมวยไทย ครูเอกสิทธิ์ มวยไทย อตีตแชมป์ ครูรุ่ง สมานทอง มวยไทย, ครูแบงค์ สุขรี่ มวยไทย และ ครูอดัม มวยไทย งานนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนามวยไทยในครั้งนี้ร่วม 50 คน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก การจัดการสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นการรวมตัวของสุดยอดครูมวยไทยมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศออสเตรเลีย เมื่อมีผลดีเกินคาด ก็คาดว่าจะมีการจัดสัมมนาครั้งต่อไปอีกเรื่อยๆ ผู้จัดขอขอบคุณครูมวยไทย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานครั้งนี้ และที่ขาดไม่ได้คือ นักเรียนผู้เข้าอบรมในครั้งนี้

การจัดกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลไทยที่จะผลักดันและส่งเสริมวัฒนธรรมไทยที่มีศักยภาพ 5 สาขา โดยรวมถึงมวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับอย่างแพร่หลายในกลุ่มคนหลายวัย หลายอาชีพในหลายประเทศ กิจกรรมดังกล่าวจึงถือเป็นการช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามสาขาหนึ่งของไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากยิ่งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงช่วยส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่เป็นการต่อสู้ป้องกันตัวอันประกอบด้วยศาสตร์และศิลป์

สุดยอดครูมวยไทย 7 คน ทั้งอดีตทีมชาติไทย และแชมป์เปี้ยนมวยไทยในรัฐวิกตอเรีย จับมือร่วมกันเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้มวยไทยจัดการสัมมนา “ซุปเปอร์มวยไทยแคมป์ Super MUAYTHAI’S Seminar #1 -2022 “ จัดขึ้นที่ค่ายมวย Gladiator MUAYTHAI’S gym

@@@@ ครูดิ๊บวันสตอปเซอร์วิส ค่ายมวยครูดิ๊บ สำนาง ยวนจิตร ครูมวยชื่อดังที่เมือง บัลลารัท วิคเตอรเรีย ประเทศออสเตรเลีย เปิดโรงยิมมานานกว่า 7 ปี ที่นี่ และดำเนินการมานาน กว่า 15 ปี ในประเทศออสเตรเลีย โดยมีการเปิดสอนมวยไทย ให้ชาวออสซี่ ตั้งแต่เด็กๆ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ทั้งชายและหญิง สลับผลัดเปลี่ยนกันมา ทั้งแบบกลุ่ม และการสอนตัวต่อตัว ครูดิ๊บนอกจากจะสอนมวยไทย แล้วยังเปิดบริการนวดรักษา แบบไทยแผนโบราณ และนวดน้ำมันแบบชาวตะวันตก ที่เรียกว่า Remedial massages ซึ่งได้รับความนิยมมากไม่แพ้แบบไทยในอาคารเดียวกัน ช่วงโควิดที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบโดยตรงกับค่ายมวยและร้านนวด แต่ยังพอได้นวดรักษาเเบบ Remedial ได้บ้าง ซึ่งในช่วงเวลาที่ปิดร้านครูดิ๊บได้ เพิ่มกิจกรรมเข้าไปในธุรกิจอีกอย่างคือ การวาดภาพแบบไทยๆ และได้ทำรายได้ให้ธุรกิจอย่างดีในระดับหนึ่ง เสริมรายได้ที่ขาดหายไป และตอนนี้ก็ยังคงวาดภาพ ขายที่ร้านและออนไลน์ด้วย @Kru Dip Art ตอนนี้ โควิคเริ่มซา ไม่มีการล็อคดาว เหมือนเคยทำให้ธุรกิจเริ่มดีขึ้น เพื่อให้ดียิ่งกว่า เขาจึงได้ปรับปรุงร้านเพิ่มเติม เพื่อให้ดูดีมีระดับและถูกสุขลักษณะ

มวยไทยยิมของ ครูดิ๊บ สำนาง ยวนจิตร ครูมวยชื่อดังที่เมือง บัลลารัท วิคเตอรเรีย ประเทศออสเตรเลีย เปิดโรงยิมมานานกว่า 7 ปี เปิดบริการนวดรักษา แบบไทยแผนโบราณและนวดน้ำมัน Remedial massages พร้อมทั้งเปิดกาเลอลี่วาดรูปขายที่ร้านและออนไลน์ด้วย

@@@@ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ จัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยแก่คณะ Sydney Consular Women’s Club ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ Mossman ภายในงานมีการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยในมิติต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์ไทย การสาธิตการทำข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวสังขยา โดยเชฟปัญจมา ดิษฐปาน เจ้าของร้านอาหาร Kaffir Lime การแสดงภาพเขียนโดยศิลปินไทย คณะคู่สมรสคณะกงสุลได้เรียนรู้การทำขนมไทยอย่างสนุกสนาน และชื่นชอบการแสดงนาฏศิลป์ไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งได้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยและของที่ระลึกซึ่งสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ นครซิดนีย์ นอกจากนั้น ยังได้ร่วมรับประทานอาหารไทย ซึ่งในโอกาสนี้ได้นำเสนออาหารไทยเมนูยอดนิยม อาทิ ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ข้าวเหนียวมะม่วง และวุ้นกะทิ

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ จัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยแก่คณะ Sydney Consular Women’s Club ณ บ้านพักกงสุลใหญ่ Mossman ภายในงานมีการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยในมิติต่าง ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565

@@@@ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ร่วมกับเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเสวนาใน Australia-ASEAN Business Forum ที่นครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้แผนงานของคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงแคนเบอร์รา (ASEAN Committee in Canberra – ACC) งานเสวนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและหาแนวทางในการเพิ่มพูนและส่งเสริมธุรกิจ การค้า การลงทุนระหว่างออสเตรเลียกับประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน จากภาครัฐ ภาคเอกชนและภาควิชาการ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อการพัฒนาภาคเกษตรกรรมและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของออสเตรเลียในธุรกิจ โคนม โคเนื้อ สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์เกษตร ทั้งนี้ การเสวนาดังกล่าวครอบคลุมการแลกเปลี่ยนความรู้ในด้านต่างๆ ด้วย อาทิ การส่งเสริมความสัมพันธ์ออสเตรเลียกับอาเซียน การเพิ่มพูนการลงทุนในภาคการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การส่งเสริมการลงทุนในภาคการแพทย์และสุขภาพ ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นกิจกรรมพบหน้าครั้งแรกภายใต้การผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุขจากสถานการการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ร่วมกับเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเสวนาใน Australia-ASEAN Business Forum ที่นครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้แผนงานของคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงแคนเบอร์รา

@@@@ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ก็ทางวัดไทยบอกซ์ฮิลล์ นครเมลเบิร์นได้มีการเปลี่ยนพรมพื้นห้องสวดมนต์ของญาติโยมที่จะมาสวดมนต์ในห้องพระโพธิสัตว์กวนอิมและห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นไม้ไฮบริดจ์ ซึ่งในห้องนี้จะมีทั้งพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวเวียดนามหรือชาวคนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มาสักการะสวดมนต์ที่วัดไทยนครเมลเบิร์นจะใช้เป็นประจำตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมาร่วม 36 ปี ในการเปลี่ยนแปลงพื้นพรมเป็นพื้นไม้ในครั้งนี้ทางวัดก็ได้รับการอุปถัมภ์การติดตั้งโดยช่างหนึ่ง พงศ์พลิน ปิงสุขแสน หรือที่ฝรั่งลูกค้าเรียกว่า ช่างจาคอป Jacob ซึ่งเป็นช่างไทยและทีมงานได้สละเวลามาปรับเปลี่ยนเพื่ออุทิศผลบุญเนื่องในวันเกิดของตัวเอง ซึ่งไม่คิดค่าแรงในการติดตั้งทั้งหมด สำหรับคนไทยในเมลเบิร์นท่านใดที่ต้องการช่างไทยฝีมือดี ปรับปรุง ต่อเติมบ้าน อาคาร งาน renovation งาน shop fitting ทำงานปราณีตและรวดเร็วก็ ติดต่อได้ 96 Build Group Pty Ltd Mob. 0451 654 996

ในการทำบุญเปลี่ยนพรมเป็นพื้นไม้ครั้งนี้ทางวัดไทยนครเมลเบิร์นได้รับความเมตตาจากญาติธรรมทั้งชาวไทยในเมลเบิร์นและบริเวณใกล้เคียงได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อที่จะจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์มาให้ช่างเพิ่มอีกส่วนหนึ่งด้วย ทางวัดและคณะกรรมการวัดไทยในเมลเบิร์นก็ต้องขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่ได้ร่วมกันทำบุญในครั้งนี้ ขอให้ผลบุญกุศลในครั้งนี้จงบันดาลให้ผู้ที่ร่วมทำบุญทุกท่านและครอบครัว จงพบแต่ความสุขความเจริญคิดจะทำการสิ่งใดขอให้สมหวังตั้งใจทุกประการด้วยเทอญ

ทางวัดไทยบอกซ์ฮิลล์ นครเมลเบิร์นได้มีการเปลี่ยนพรมพื้นห้องสวดมนต์ญาติโยมที่จะมาสวดมนต์และห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นไม้ไฮบริดจ์ ซึ่งในห้องนี้จะมีทั้งพุทธศาสนิกชนมาสวดมนต์ เป็นประจำตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมาร่วม 36 ปี ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ไตรภพ ซิดนีย์

[email protected]