นอ.บุญส่ง นวลย่อง หัวหน้าทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมมวยไทยสมัครเล่นชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ยอมรับยังเป็นห่วงนักมวยไทยจะตกม้าตายพลาดเหรียญทองเพราะห่วงเต้นคุมรูปมวยมากเกินไป ไม่ขยันออกอาวุธ เพราะว่ามวยไทยสมัครเล่น จะเน้นกติกาสากลดูอาวุธมวยเป็นหลัก ผิดกับมวยไทยอาชีพที่นักมวยไทยมักจะติดรูปแบบเดิมๆที่เอาแต่เต้น คุมรูปมวยมากเกินไป ยิ่งยุคนี้มวยต่างชาติเรียนรู้ได้เร็วและขยันออกอาวุธมากกว่า โดยทีมมวยไทยได้บทเรียนมาแล้วในศึกมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่ผ่านมาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นหนนี้ทำได้ต้องทำหรือน็อกได้ต้องน็อกไปเลย
ทีมมวยไทยสมัครเล่นทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในเดือนพฤษภาคม ยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่ค่ายมวยที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยมีนอ.บุญส่ง นวลย่อง หัวหน้าสต๊าฟโค้ช และทีมงานร่วมกันดูแล ซึ่งสภาพล่าสุดนัดมวยทั้งชายและหญิง รวม 10รุ่น ถือว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมชกแล้วน้ำหนักตัวเกินไปพิกัดเพียง1กก.เท่านั้น
นอ.บุญส่ง เผยว่า มวยไทยสมัครเล่น จะแตกต่างกับ มวยไทยอาชีพ อย่างสิ้นเชิงที่เราเห็นอยู่ คือมวยไทยสมัครเล่นจะเน้นการออกอาวุธเป็นหลัก หมัดเท้าเข่าศอก ออกหมดใครทำได้ชัดเจนกว่าก็ชนะไป แต่มวยไทยอาชีพจะมีการคุมรูปมวย เอาแต่เต้นซะมากกว่าซึ่งเรื่องแบบนี้แหละที่ตนเป็นห่วง นักมวยที่ติดทีมส่วนมากก็เป็นนักมวยไทยอาชีพทั้งนั้นจึงต้องเอามาฝึกซ้อมร่วมกันเพื่อละลายพฤติกรรมแบบเดิมๆ
“ผมยอมรับว่ายังเป็นห่วงในเรื่องนี้นะ เพราะว่ามวยไทยสมัครเล่นจะไม่มีการเอาแต่เต้น เอาแต่ถอยคุมเชิงมากเกินไปจะไม่มีคะแนน ซึ่งในศึกมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกเมื่อปลายปีที่แล้ว มีนักมวยไทยหลายรายแพ้นักมวยต่างชาติเพราะว่าติดรูปแบบมวยไทยอาชีพทำได้แล้วถอยออกมาคุมเกม เราได้บทเรียนไปแล้ว ดังนั้นถ้าเราอยากได้เหรียญทองก็ต้องเดินทำให้ชัดเจน น็อกได้น็อกเลยไม่ต้องเลี้ยงไข้แล้ว เชื่อว่าตามเป้าที่วางเอาไว้ 5ทองบวกน่าจะทำได้ครับ” นอ.บุญส่ง เผย
Add friend ที่ @Siamsport