'บัวขาว'ดวล'โคตะ' นักชกหน้าหยกจากญี่ปุ่น วิกราชดำเนินเดือดแน่19 ส.ค.นี้

ยอดมวยไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ” เผชิญหน้านักชกหน้าหยกดาวรุ่งแห่งยุคจากแดนอาทิตย์อุทัย “โคตะ มิอุระ”เป็นครั้งแรก ก่อนระเบิดกำปั้นในไฟต์พิเศษบนเวทีราชดำเนินค่ำคืนวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ ผู้บริหารปลื้มได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและสมาคม องค์กรต่างๆ จนเกิดอีเวนต์ระดับโลกนี้ได้ เผยกระแสดีทั้งในและต่างประเทศ ตอบโจทย์การยกระดับเวทีมวยราชดำเนินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ เซ็นเตอร์ที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมมุ่งมั่นสร้างเวทีมวยราชดำเนินและมวยไทยให้เป็นหนึ่งในเดสทิเนชั่นต้องห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งเป็น Soft Power ที่สร้างการรับรู้และรายได้ให้กับประเทศ

สปอตไลต์จากทั่วโลกสาดส่องลงมายังเวทีราชดำเนิน เวทีมวยที่ยืนยงกว่า 77 ปี กับมวยไฟต์พิเศษระดับโลกรายการ KAT PRESENTS LEGEND OF RAJADAMNERN ระหว่างยอดมวยไทยที่ทั่วโลกยกย่อง “บัวขาว บัญชาเมฆ” กับนักชกอัจฉริยะดาวรุ่งแห่งทศวรรษที่สร้างกระแสฮือฮาทั่วเกาะญี่ปุ่นและโด่งดังไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน “โคตะ มิอุระ” ซึ่งโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ ณ เวทีมวยราชดำเนิน นับเป็นการหวนคืนสู่เวทีราชดำเนินครั้งแรกในรอบ 18 ปีของบัวขาว บัญชาเมฆ อีกด้วย

ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นที่เวทีมวยราชดำเนินว่า ความสำเร็จครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นชัดถึงความร่วมมือร่วมใจของภาครัฐ สมาคมและเอกชน ที่ร่วมกันสร้างสรรค์งานระดับโลกให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการทำงานของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในอันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมกีฬาทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการนักกีฬา บุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬา เป็นต้น

“ในนามกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในความสำเร็จครั้งนี้ เพราะกีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่ทั่วโลกรู้จักและยอมรับว่าเป็นการต่อสู้อันดับหนึ่งของโลก เป็นเอกลักษณ์ของชาติที่ทั่วโลกรู้จัก ในขณะที่การประกบคู่มวยที่เป็นแม่เหล็กเช่นนี้ ยิ่งจะส่งเสริมให้เวทีมวยราชดำเนินเป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เวทีมวยราชดำเนินซึ่งเป็นเวทีมวยไทยที่มีชื่อเสียงและยาวนานมากว่า 77 ปี ได้มีการปรับปรุงพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นจนอาจกล่าวได้ว่า เวทีมวยราชดำเนินจะเป็นสปอร์ต เอนเตอร์เมนต์ เซ็นเตอร์เช่นเดียวกับสนามกีฬาระดับโลกได้ในไม่ช้า ทั้งหมดนี้นับเป็น Soft Power ที่ทรงพลังของประเทศ”

ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติกล่าวต่อด้วยว่า กองทุนฯ มีความเต็มใจและตั้งใจอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมผลักดันกีฬามวยไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬามวยไทยทั้งที่เป็นคนไทยเองและนักกีฬาต่างชาติ ได้พัฒนาทักษะฝีมือให้เพิ่มพูนขึ้น เพื่อให้กีฬามวยไทยสนุกขึ้น มีนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างเครือข่ายมวยไทยในระดับโลกที่จะส่งผลทั้งต่อชื่อเสียงและเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการใช้กีฬาช่วยสร้างสรรค์ชาติ

อีกหน่วยงานที่มีส่วนสำคัญต่อการจัดงานครั้งนี้คือสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย (Kickboxing Association of Thailand) โดยพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวถึงรายการ KAT Presents Legend of Rajadamnern ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย หรือ Kickboxing Association of Thailand และ GSV โดยการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตามพันธกิจในการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนากีฬา เป็นเลิศ กีฬาอาชีพ และกีฬามวย เพื่อสรรหาและพัฒนานักกีฬาและบุคลากรกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับชาติและนานาชาติ อีกทั้งการสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาให้มีมาตรฐาน เพื่อสร้างโอกาส และประสบการณ์ให้กับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา รวมทั้งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

“จุดเริ่มต้นของคิกบ็อกซิ่งนั้น พัฒนาขึ้นจากมวยไทยจนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง คราวนี้นับเป็นโอกาสดีที่สองนักสู้จะได้มาพบกันในดินแดนที่เป็นจุดกำเนิด บัวขาวเป็นนักชกมวยไทยที่มากด้วยประสบการณ์ ผ่านเวทีระดับโลกมามากมาย ส่วนโคตะ มิอุระ ก็เป็นนักชกดาวรุ่งพุ่งแรงที่แม้จะประสบการณ์น้อยกว่า แต่โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลก ย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นนักชกที่ไม่ธรรมดาและน่าจับตาแห่งทศวรรษ การเจอกันของทั้งสองคนนี้ ทำให้เป็นไฟต์ที่ทั่วโลกสนใจมากเป็นพิเศษ” นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทยกล่าวเพิ่มเติม

นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ซีอีโอ บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ GSV ผู้นำทีมพัฒนาเวทีมวยราชดำเนินให้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงแบบเดียวกับสนามกีฬาระดับโลกและเป็นผู้จัดการแข่งขันชกมวยไทยรายการ RWS ราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์ กล่าวขอบคุณการสนับสนุนจากภาครัฐ สมาคมและพันธมิตร ที่ช่วยผลักดันให้การชกครั้งนี้คือ KAT presents legend of Rajadamnern เป็นจริงขึ้นมาได้ นอกจากความสนุกเร้าใจกับมวยคู่ต่างๆ ของค่ำคืนนั้นแล้ว ยังจะปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากเจ้าพ่อวงการเพลงแร็พไทยอย่าง “โจอี้บอย” และ “ก้านคอคลับ” ที่ขนทัพมาสร้างความบันเทิง เป็นครั้งแรกในเมืองไทยกับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ในการดูมวย

อนึ่งการชก Kickboxing Exhibition ในครั้งนี้ เวิร์คพอยท์ทีวี ช่อง 23 จะถ่ายทอดความสนุกจากเวทีมวยราชดำเนินสู่สายตาคอมวยทั่วประเทศ  สำหรับผู้ชมทั่วประเทศสามารถติดตามชมมวยคู่นี้และคู่อื่นๆ ในรายการ RWS ราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์ ผ่านการถ่ายทอดสดผ่านเวิร์คพอยท์ ช่อง 23 เวลา 21.15 น.ของวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้