มีที่มาที่ไป “บัวขาว” เผยหลังคว้าปริญญาถึง 4 ใบ พร้อมลุ้นรับ ป.โท เพิ่มอีก

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 ความเคลื่อนไหวศึกมวยรายการ “ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ RWS” การต่อสู้นัดพิเศษ KAT PRESENTS LEGEND OF RAJADAMNERN ประจำเดือนตุลาคม คู่เอกเป็นการพบกันระหว่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง พบกับ โยชิฮิโระ ซาโตะ นักสู้ชาวญี่ปุ่น โดยเป็นการชกแบบ Exhibition Kickboxing Match หรือการแข่งขันในแบบสาธิต ไม่ตัดสินแพ้ชนะแต่อนุญาตให้น็อกเอาต์คู่ต่อสู้ได้ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง

ซึ่งทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ตมีโอกาสได้สัมภาษณ์ บัวขาว บัญชาเมฆ ก่อนจะพบกับ ซาโตะ ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ณ งานแถลงข่าว คิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทย “Thailand Kickboxing Championship 2022” ณ การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวานที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึง การที่เพิ่งได้ปริญญาใบที่ 4 เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งให้พูดเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ โดย บัวขาว เปิดเผยว่า “จริงๆ แล้วอยากเปิดเวทีพูดคุย ประสบการณ์มีเยอะ ประสบการณ์ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเองดีกว่า จริงๆ แรงบันดาลใจก็มาจากตัวเอง กับมุมมองของตัวเอง เปิดโลกกว้างให้กับตัวเองมากกว่า ว่าเราอยากจะเป็นแบบไหน ถ้าอยากจะสร้างชื่อ ก็ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ อย่างผมเป็นนักกีฬา ผมก็ต้องซ้อม หาประสบการณ์ เผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทย สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง และองค์กรอื่นๆ ก็จะมองเห็นว่าเราจะทำอะไรให้องค์กรนั้นๆ ได้บ้าง”

สำหรับ บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทย วัย 40 ปี คว้าปริญญาได้แล้วรวม 4 ใบคือ

– ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา (วท.ม) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2556

– ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปี 2557

– ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต (ปริญญาตรี) สาขาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปีการศึกษา 2560

– ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ การจัดการการกีฬา (ปริญญาเอก) มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ปี 2565

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน บัวขาว บัญชาเมฆ กำลังศึกษาปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารสาธารณะ วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยอยู่ในช่วงทำวิทยานิพนธ์เพื่อจบหลักสูตรในโอกาสต่อไป

ซึ่งไฟต์ต่อไป บัวขาว บัญชาเมฆ จะลงดวลกับ โยชิฮิโระ ซาโตะ ยอดนักชกชาวญี่ปุ่น ในศึก  KAT Presents Legend of Rajadamnern ในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ที่เวทีราชดำเนิน กำหนดรูปแบบการชกแบบ คิกบ็อกซิ่ง ไม่มีการตัดสินแบบแพ้ชนะ แต่อนุญาตให้น็อกเอาต์คู่ต่อสู้ได้ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่งได้ ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ซาโตะ คือนักชกคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่สามารถชนะน็อก บัวขาว ได้รายการ K-1 World Max ปี 2008