และปรับรูปแบบการแข่งขันชกมวย ทั้งการชกในอัตลักษณ์เดิม การชกมวยแบบผสมผสาน เพื่อนันทนาการไม่ให้มีการพนันโดยเด็ดขาด ให้เป็นสนามมวยต้นแบบ สู่การพัฒนามาตรฐานมวยไทยในทุกด้านเพื่อยกระดับมวยไทยให้เป็นกีฬาอย่างแท้จริง
อีกทั้งยังเป็นการปฎิบัติตามนโยบายของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการสนับสนุนฟื้นฟูการเรียนมวยไทย สนับสนุนให้ประชาชนเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวควบคู่กันไปด้วยนั้น
ล่าสุด การพัฒนาดังกล่าว ยังเดินหน้าไปอีกขั้น เมื่อกองทัพบกโดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักดยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน
ในหัวข้อ “ความร่วมมือเชิงปฎิบัติการขับเคลื่อนสนามมวยต้นแบบสู่การพัฒนามาตรฐานมวยไทยในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับกีฬามวยไทยให้เป็นกีฬาประจำชาติอย่างแท้จริง” ตามกรอบเวลา 5 ปี ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันก่อน
พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทั้ง 2หน่วยงาน จะร่วมมือประสานงานด้านต่างๆภายใต้การกำกับและอำนวยการของ กกท. โดย พ.ร.บ.กีฬามวยปี 2542 อย่างถูกต้องและเป็นรูปธรรม
ในส่วนของโรงเรียนมวยไทยลุมพินีได้ใช้หลักสูตรกลางที่ได้รับการยอมรับโดยองค์กรที่ดำเนินงานเรื่องกีฬามวยไทยของประเทศ ตลอดจนเรื่องการจัดทำมาตรฐานต่างๆเกี่ยวกับมวยไทยในทุกมิติเพื่อให้กำลังพล และครอบครัว ประชาชนทั่วไป และคนทั่วโลกเกิดการยอมรับในมาตรฐานต่างๆที่ถูกจัดขึ้น
โดยมี กกท.ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านกีฬาของประเทศ เป็นผู้รับรองมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้มาตรฐานนั้นๆได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กกท.จะเป็นหน่วยงานสนับสนุนแผนการปฏิบัติให้เกิดการขับเคลื่อนด้านธุรกิจกีฬามวยไทย
ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ สนามมวยลุมพินี เป็นศูนย์กลางของมวยไทย คิดถึงมวยไทยคิดถึงลุมพินี เพื่อร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนให้กีฬา
มวยไทยเป็นอุตสาหกรรมกีฬาที่สร้างรายได้เข้าประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักดกล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงปฏิบัติการ ระหว่าง กกท.กับกองทัพบกในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนสนามมวยต้นแบบ สู่การพัฒนามาตรฐาน มวยไทยในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับมวยไทยให้เป็นกีฬาจริงๆ
ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือกันในการจัดทำมาตรฐานต่างๆเกี่ยวกับมวยไทยในทุกมิติ เพื่อให้คนไทยและทั่วโลกเกิดการยอมรับ และจะร่วมกันยกระดับมาตรฐานรายได้ คุณภาพชีวิต และการเชิดชูเกียรติบุคลากรวงการมวยไทย ให้อยู่ในระดับสากล
เนื่องจากสนามมวยเวทีลุมพินีเป็นสนามมวยที่มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลกในด้านของมวยไทย ในการจัดทำมาตรฐานต่างๆ หากได้สนามมวยเวทีลุมพินีเป็นสนามนำร่องจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้มาตรฐานนั้นๆ และให้มั่นใจว่าปฏิบัติได้จริงตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
รวมทั้งยังจะใช้สนามมวยเวทีลุมพินี และโรงเรียนมวยไทยลุมพินี เป็นสถานที่ศึกษา วิเคราะห์วิจัย จัดทำโครงการ แผนงาน และประเมินผล เพื่อจัดทำข้อมูลทางสถิติที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพัฒนากีฬามวยได้ในทุกมิติ
โดยเฉพาะโรงเรียนมวยไทยลุมพินีจะเป็นหน่วยปฏิบัติด้านการเรียนการสอนมวยไทย ตามมาตรฐานที่ กกท.ได้กำหนดขึ้น เพื่อเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติ และเป็นโรงเรียนนำร่องที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของทั่วทุกมุมโลก
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกันระหว่างทั้ง 2 หน่วยงาน ซึ่งเป็นภาครัฐที่มีเป้าหมายด้านกีฬามวยเหมือนกัน จะสามารถทำให้เป็นศูนย์กลาง
การประสานงานที่เกี่ยวกับกีฬามวยไทยได้ทั้งระบบ และทั่วโลก ผ่านการประสานงานไปยังทูตทหารในแต่ละประเทศ
การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราจะได้สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นสนามมวยต้นแบบ ในการพัฒนามวยไทยอย่างเป็นระบบมีมาตรฐานที่ชัดเจน และดำเนินการอย่างเคร่งครัด ปลอดจากการพนัน ไม่มีมวยเด็ก มีการตัดสินที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
แน่นอนว่าถ้าเราสร้างมาตรฐาน และรักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดี ก็จะนำมาซึ่งความเชื่อมั่น สามารถใช้มวยไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์ หรือนำกีฬาและวัฒนธรรมประจำชาติมาเป็นพลังแฝงในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบกีฬานี้เข้าประเทศได้ตามนโนบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ไว้
“เมื่อเราสร้างมูลค่าของมวยไทยได้อย่างมั่นคง แข็งแรง มีฐานที่แข็งแกร่งแล้ว ก็จะมาซึ่งการดึงดูดนักท่องเที่ยวช่วยสร้างเม็ดเงิน สร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศต่อไปในอนาคต” ดร.ก้องศักด กล่าวในตอนท้าย
ทั้งหมดนี้ถือเป็นความร่วมมือที่น่าสนใจ ซึ่งเราต้องยอมรับว่าก็คล้ายๆกับการปูพื้นฐาน สร้างรากฐานให้มวยไทยกันใหม่ให้คงทนให้หนาแน่นกว่าเดิม
เพราะที่ผ่านมาพบว่าทั้งตัวระบบ รวมไปถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องหย่อนยานในเรื่องมาตรฐานกันไปมาก นี่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการมวยไทย ที่อาจจะต้องเริ่มต้นจริงจังกันอีกครั้ง
โดยมีลุมพินีเป็นเวทีต้นแบบ เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างมูลค่า พร้อมๆกับสร้างความเชื่อมั่นในกีฬามวยไทยต่อชาวโลก
ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนถาวร…
กัญจน์ ศิริวุฒิ