ปาดคอฆ่าครูมวย ตำรวจจับสาวสนิท อ้างทำคนเดียว

This image is not belong to us

ฆ่าเหี้ยมครูมวยดัง ฆาตกรโหดลวงเชือดคอเหวอะหลอดลมขาดดับสยอง ข้างรถ ที่เกิดเหตุบนถนน ซอยอ่อนนุช 70/1 สภาพเละเทะ เลือดเกรอะกรังทั่วทั้งในและนอกรถ ไม่ใส่เสื้อ กางเกงในถูกถอดทิ้งประจาน ชาวบ้านให้การได้ยินเสียงโวยวายแต่ไม่กล้าออกมาดู หลังทุกอย่างสงบออกมาพบกลายเป็นศพแล้ว ตำรวจพุ่งปมชู้สาว ติดพันผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว เคยถูกพยายามฆ่ามาแล้ว 2 ครั้งแต่รอดมาได้ “ผู้การ 4” เผย ตามตัวผู้หญิงต้นเหตุพบแล้ว อยู่ระหว่างสอบเครียด ส่วนมือมีดรู้ตัวแล้ว ยังไม่รู้ว่าทำคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่ม กำลังเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี

ฆาตกรเหี้ยมปาดคอครูมวยดับ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 22 ก.พ. พ.ต.ท.พรประสิทธิ์ มาละมัย สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงและเขตประเวศ กทม. รายงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัคร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านเสรี- อ่อนนุช 19 บนถนนพบศพนายวิชาญ หรือแดง มะลิทอง อายุ 46 ปี สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงวอร์มสีดำ ส่วนเสื้อยืดแขนสั้นสีแดงและกางเกงในสีเขียวตกอยู่ข้างตัว ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลถูกของมีคมปาดคอตัดหลอดลมขาดเป็นแผลฉกรรจ์ นอนหงายจมกองเลือดอยู่ข้างรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 6427 อุทัยธานี ของผู้ตาย รถมีคราบเลือดแห้งเกรอะกรังรอบคัน ภายในรถยังพบรอยเลือดที่เบาะหลัง ประตูรถฝั่งคนขับและด้านหลังฝั่งซ้ายไม่ได้ล็อก แต่ไม่พบอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ

สอบปากคำพยานละแวกใกล้เคียงระบุว่า ช่วงเวลา 22.00 น. ได้ยินเสียงรถ จยย. ขี่เข้ามาในจุดดังกล่าวหลายคัน ก่อนได้ยินเสียงคนโวยวายแต่ไม่กล้าออกมาดู เนื่องจากเกรงอันตราย ก่อนออกมาพบว่า มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

มีรายงานว่า ผู้ตายเปิดค่ายมวยชื่อ 789 มวยไทยยิม ย่านราม 2 มีหุ้นส่วน 3-4 คน และเป็นครูมวยใช้ชื่อในวงการคือ วิชาญน้อย ศิษย์เจ๊พเยาว์ ปกติอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนเกิดเหตุบอกญาติว่า จะเดินทางมาทำธุระที่กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปหาภรรยาผู้ตายที่ จ.สุพรรณบุรี ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายมีครอบครัวแล้ว มีลูก 1 คน แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ตายไปติดพันผู้หญิงชื่อพลอยไพลิน ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปีมีสามีแล้วชื่อเล่นว่า โอ้ต เมื่อกลางปีที่ผ่านมานายโอ้ตรู้ว่า เมียนอกใจมาคบกับผู้ตายทำให้โกรธแค้น ก่อเหตุขับรถชนนายวิชาญจนบาดเจ็บ แจ้งความที่ สน.ประเวศ หลังเหตุการณ์แรกไม่กี่เดือน นายวิชาญถูกกลุ่มคนร้ายหลอกให้มาพบอ้างจะไปฝึกมวยแล้วอุ้มไปทำร้ายบาดเจ็บก่อนปล่อยตัว นายวิชาญแจ้งความไว้ที่ สน.อุดมสุข หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้นายวิชาญต้องพาลูกเมียไปหลบที่ จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ก่อนมาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม

ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เรียก พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ พร้อมชุดสืบสวน ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีใช้เวลาประมาณ 1 ชม. พล.ต.ต.พรชัยกล่าวว่า ตอนนี้ทราบตัวคนร้ายแล้ว เชื่อว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานว่า ีมีผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวหรือไม่ พร้อมตรวจสอบคดีเก่าที่ผู้ตายเคยแจ้งความว่า ถูกรุมทำร้ายที่ สน.อุดมสุข กับ สน.ประเวศ ควบคู่กันเบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด แต่พบมีดสั้นที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ส่วนมูลเหตุจูงใจ คาดว่ามาจากเรื่องชู้สาวเป็นอันดับต้นๆ ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และติดตามหญิงสาวที่มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องมาสอบสวน

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าชุดสืบสวน สน.ประเวศ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบมีดสั้นปลายแหลมยาว 7 นิ้วตกอยู่ในพงหญ้าห่างจากตัวรถประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ ยังพบโทรศัพท์มือถือ คาดว่าเป็นของผู้ตายตกห่างจากจุดที่พบมีดเล็กน้อย ตัวโทรศัพท์มีร่องรอยการทุบทำลาย และขณะนี้ติดตามตัวหญิงสาวซึ่งมีความสัมพันธ์กับผู้ตายได้แล้ว อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำ

ด้านการจัดพิธีศพนายวิชาญ หรือแดง มะลิทอง หลังญาติไปรับศพจากนิติเวช รพ.ตำรวจ กลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 309 หมู่ 11 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมาร่วมพิธีรดน้ำศพ พบภาพสะเทือนใจเมื่อลูกชายผู้ตายวัย 1 ขวบ 3 เดือน ชี้รูปพ่อที่ตั้งหน้าศพอย่างไร้เดียงสา จนหลายคนถึงกับน้ำตาซึม

นางสุวรรณา เรืองฮุย อายุ 69 ปี มารดาผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วลูกชายเคยถูกคนร้ายขับรถชนจนสลบ แล้วจะถอยทับซ้ำ พอดีวิน จยย.รับจ้างเข้ามาห้ามเลยรอดตายมาได้ หลังจากนั้นไม่นานมีคนร้ายทำทีมาให้สอนมวย แล้วรุมทำร้ายแต่รอดชีวิตมาได้ จนครั้งนี้ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม คนร้ายจิตใจทำด้วยอะไร ลูกชายตนเตรียมจะบวชวันที่ 27-28 ก.พ.เตรียมจัดงานไว้หมดแล้ว ลูกชายมีลูกเล็กอายุ 1 ขวบ 3 เดือน อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้ไวๆ ตนจะไปดูหน้า ลูกชายเป็นครูสอนมวย พอโควิด-19 ระบาดเลยต้องหยุดกลับมาอยู่บ้าน

ด้านนางสาวอุทุมพร มะลิทอง อายุ 41 ปีน้องสาวผู้ตาย เผยด้วยดวงตาแดงก่ำว่า รู้สึกตกใจ เพราะตนมีกัน 2 พี่น้อง เสียใจมากเพราะกำลังจัดเตรียมงานบวชให้พี่ชาย จองเครื่องแห่ซื้อของไว้พร้อมแล้ว ไม่นึกว่าจากงานบวชกลับต้องมาจัดงานศพแทน รู้สึกช็อกล้มทั้งยืน มันเร็วเกินไป ปกติพี่ชายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัว กลับมาบ้าน เขาจะเลี้ยงลูก ช่วยแม่ขายของ ไม่เคยคุยเรื่องทุกข์ใจให้ฟัง

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ที่ สน.ประเวศ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.พลอยไพลิน คุณานุกรกุล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง เลขที่ 86/2564 ลงวันที่ 22 ก.พ.2564 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะ เบื้องต้นผู้ต้องหาเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงเที่ยง รับสารภาพว่า รู้จักกันมา 3 ปีจากการเป็นสมาชิกยิมดังกล่าว แล้วห่างหายกันไปนานเพิ่งจะนัดเจอกันล่าสุดครั้งนี้ สาเหตุที่ลงมือเนื่องจากแค้นส่วนตัวเรื่องชู้สาวและเป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนยังรอผลจาก พฐก. รอยนิ้วมือแฝงจากมีด และบริเวณในรถว่ามีผู้ใดอยู่ที่เกิดเหตุอีกหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะคัดค้านการประตัวหรือไม่รวมทั้งยังให้ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีผู้ก่อเหตุอีกหรือไม่