เปิดใจ “ดาด้า เตาเฟ็ส” จิตอาสาแม่พระมวยเด็ก – บทความมวยไทย – SMMSPORT

ต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดกับเยาวชนถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ลุกลามและทวีความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเยาวชนที่ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองหรือเด็กขาดความอบอุ่น พ่อแม่อย่าร้างอาจหลงผิดไปติดยาเสพติดกลายเป็นปัญหาของสังคม

 คุณดาด้า เตาเฟ็ส ถือเป็นสุภาพสตรีเหล็กที่ยื่นมือเจ้ามาช่วยเหลือดูแลศูนย์ส่งเสริมเยาวชนต้นกล้ามวยไทยหนองจอก ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร “รองอ๊อด สารคาม” นำไปพูดคุยเปิดใจ

 “ดาด้า เริ่มเข้ามาดำเนินการศูนย์ส่งเสริมต้นกล้ามวยไทยหนองจอกโดยการทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ เพื่อเด็กๆ เยาวชนต้นกล้าด้วยใจอันบริสุทธิ์  มีจิตใจอันเป็นกุศล โดยไม่หวังผลตอบแทน เพื่อต้องการสร้างปลูกปั้นเยาวชนต้นกล้าให้เป็นเด็กดี ห่างไกลยาเสพติดไม่เป็นภาระของสังคม

 “ชีวิตในวัยเด็กไม่ได้อยู่กับครอบครัวเพราะพ่อแม่ต้องทำงาน มาอยู่กับตายาย พอจบ ป.6 ก็กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ หาที่เรียน และทำงาน  เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ปริญญาตรีใบแรกที่ มหาวิทยาลัยราม คำแหง แต่ไม่ชอบสายที่เรียนเพราะช่วงนั้นติดเพื่อนเรียนตามเพื่อน ก็หาที่ไปเรียนที่ใหม่ คณะบริการธุรกิจ เอกบริหารทรัพย์กรณ์มนุษย์ มหาวิทยาลัยราชนครินทร์ แต่ทั้งหมดที่เรียนมาก็ไม่ได้นำมาใช้ เพราะทำงานฝ่ายการตลาดดูแล ติดตั้งเครื่องจักร โดยงานที่ทำเหมือนครูพักลักจำ อาศัยถามเยอะๆ ดูมากๆ อ่านบ่อยๆ เพราะมันเป็นงานที่ท้าทาย ชีวิตอยู่แต่ต่างจังหวัด การเดินทาง เหนื่อยแต่เพราะเงินดี”

 “จนมาซื้อบ้านที่หนองจอก ก็มีอาชีพ ขายรถบ้านมือ 2 เพิ่มมา จนมาเริ่มคลุกคลีกับค่ายมวย ด้วยความที่เราฝังใจกับมวยเพราะอาน้องพ่อก็เป็นนักมวยที่มีชื่อในจังหวัดชลบุรี ใช้ชื่อ ฮัมบาลีน้อย ลูกหนองกระพง ในตอนนั้นได้แชมป์ภูธร แต่ก็จำไม่ได้ว่ารุ่นใหน เหมือนมันมีความทรงจำอยู่ในหัว พอมาเห็นที่ค่ายมีมวยเด็กก็สนใจมาสนับสนุน”

 “และที่สำคัญ เด็กๆที่มาซ้อม เป็นเด็กที่ค่อนข้างยากจน มีสภาวะเสี่ยงติดยา ครอบครัวแตกแยก  ยิ่งมองเห็นว่า ทั้งเจ้าของค่าย ครูมวย เทรนเนอร์ทุกคน มีใจให้เด็กๆ ในการเยียวยา เลยเข้ามาช่วยบริหาร หางบประมาณบ้าง เมื่อตั้งหลักปักฐานแล้ว ก็อยากทำอะไรดีๆ ต่อสังคมบ้าง”

 คุณดาด้า เตาเฟ็ส กล่าวถึงที่มาที่ไปถึงเหตุผลที่เข้าดูแลบริหารจัดการศูนย์ฝึกเยาวชนต้นกล้ามวยไทยบ้านบึงเตย”

 ปัญหาความเดือดร้อน หลังจากไม่มีมวยชก เพราะผลกระทบจากพิษภัยวิกฤตโควิด อันหนักหน่วงในครั้งนี้ “ดาด้า” บอกว่า ช่วงสภาวะโควิดนี้ไม่มีอาชีพใหนที่ไม่ได้รับผลกระทบ ที่ศูนย์ส่งเสริมเยาวชนต้นกล้ามวยไทย หนองจอกก็เช่นกัน ตอนนี้ที่ค่ายก็ทำโครงการค่ายมวยช่วงปิดภาคเรียน.  

 ทั้งนี้เพราะว่าเด็กส่วนมากที่เราสนับสนุนอยู่จะเป็นเด็กที่มีฐานะค่อนข้างลำบาก และสุ่มเสี่ยงต่อการติดยาเสพติด หรือครอบครัวมีปัญหาแตกแยกกันอยู่แล้ว เราเลยทำโครงการนี้ขึ้นมา

 ส่วนในเรื่องเงินสนับสนุนโครงการ เราไม่มีหน่วยงานใหนที่จะสนับสนุนเรา แต่เราโชคดีที่มีกลุ่มครอบครัวมวยไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองของเด็กแต่ล่ะท่าน ผู้ปกครองของเด็ก ที่มาเรียนมวย แม้กระทั้งผู้ที่เข้ามาสัมผัส ว่าเราทำมวย ไม่ได้หวังผลประโยชน์อื่นได เราทำด้วยใจเพื่อเด็กๆ ก็เลยมีบางส่วนที่ช่วยเหลือเป็นค่าน้ำค่าไฟ 500, 1000 หรือกำลังทรัพย์ที่เขาพอจะทำได้ ซึ่งทางค่าย ต้องขอขอบคุณมา ณ.ที่นี้ด้วย 

 “ตอนนี้เด็กๆ ก็กินนอนอยู่ที่ค่ายค่ะ เกือบ 20 ชีวิต  ซึ่งแน่นอนว่าภาระและความรับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย การกินอยู่ ของผู้ดูแลค่าย และครูมวยก็มากขึ้นตาม เอาจริงๆ ถ้าไม่ได้ทำด้วยใจ อยู่ไม่ได้แน่นอน ต้องขอบคุณ ครูสร ศักดิ์วารุณ ผู้ฝึกสอน และครอบครัว แม่ย่านางค่ายมวย น้องกี น้องมัด ทุกๆ คนที่เสียสละ ที่มีความมุ่งมั่น ในอาชีพมวย ทำทุกอย่างให้เด็กๆ เป็นทั้งครูมวย เป็นเทรนเนอร์ เป็นช่างตัดผม เป็นพ่อครัว คือเป็นทุกอย่างจริงๆ ซึ่งเด็กที่ซ้อมที่นี่คือเด็กที่อยู่ค่าย กินนอน ที่ค่าย 100 เปอร์เช็นต์ค่ะ”

 “เรื่องของความเดือนร้อนก็มีนะค่ะ แต่เราก็อาศัย เศรษฐกิจพอเพียง มีน้อยใช้น้อย อีกอย่างเด็กๆ ก็ทราบถึงสภาพการปัจจุบันอยู่ แต่ทางค่ายโชคดี ที่ว่ามีผู้ใหญ่ใจดีสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง ของกิน  อาหารกล่อง คือน้ำใจคนไทยไม่เคยหืดแห้งค่ะ  ดีใจค่ะที่มีคนเห็นสิ่งที่เราทำ”

 ในยามวิกฤติโรคระบาดโควิดคุณดาด้า บอกว่า สิ่งที่เราต้องรับมือคือ เราต้องอยู่กับโรคระบาดนี้ไห้ได้  และต้องทำความเข้าใจกับโรค รู้วิธีป้องกันตัวเอง ดูแลตัวเอง และทุกคนในค่าย  ให้ปลอดภัยที่สุด ในสภาวะที่โรคร้ายระบาดก็มีความโชคดี เพราะตอนนี้ทางศูนย์ เราได้รับการสนับสนุน จากโครงการ สปสช .สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  

 โดย มีหลักเกณฑ์ ให้ทำโครงการเพื่อสุขภาพ ด้วยความที่ว่าด้าพอจะรู้เรื่องการเขียนโครงการอยู่บ้าง ก็เลยลองทำโครงการ ค่ายมวยไทย เพื่อสุขภาพ นำเสนอไป ตอนแรกๆ ก็มีถอดใจอยู่บ้าง เพราะใครๆ ก็มองว่าค่ายมวย เป็นอาชีพที่ทำเงิน แต่ด้วยที่คณะอนุกรรมการ ก็พอรู้จักเราอยู่บ้าง เห็นเราทำงานจิตอาสา และทำค่ายเพื่อเยาวชนและตรวจสอบได้จริง ผ่านหลักเกณฑ์ และได้รับการสนับสนุน ช่วยเหลืองบประมาณในการทำโครงการ ค่ายมวยเพื่อสุขภาพ สำหรับที่มีปัญหาสุขภาพกายและจิตใจในเขตหนองจอก และแต่งตั้งเป็น ศูนย์ส่งเสริมเยาวชนต้นกล้ามวยไทย ต้นแบบในเขตหนองจอก

 โดยเงินที่ได้รับการสนับสนุน 254,685 บาท ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 ปี ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ โครงการดีๆ ของ สปสช.คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ทุกท่าน ผอ.เขตหนองจอก ท่านวุฒิภัทร คำประกอบ รอง ผอ ท่านภูวนารถ นนทรี ที่ให้โอกาสกับทางศูนย์เยาวชน

 เมื่อถามว่าถ้ามวยยังไม่กลับมา หรือกลับมาช้า ทางค่ายมีแผนเตรียมการอย่างไรคุณดาด้า ตอบว่า เราก็ใช้แผนปิดค่ายซ้อมภายในค่ะ ดูแลกันไป ซึ่งตอนนี้ก็อยากให้ทางภาครัฐ ดูแล และสนับสนุนเรื่อง ความเป็นอยู่

 ถ้าเป็นไปได้ ก็ในส่วน ของ ค่าน้ำ ค่าไฟ  อาหารการกิน ความเป็นอยู่ บ้างด้วยที่ค่ายก็เป็นค่ายที่ทำเพื่อการกุศล ทำเพื่อเด็ก ก็เหมือนกับ การเยียวยาเด็กๆ โดยการใช้กีฬามวยไทยเป็นสื่อ เราต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐอยู่แล้ว ทั้งนี้แล้วแต่ทางภาครัฐ จะอนุเคราะห์ ตามสมควรเพราะเป้าหมายการทำมวยเด็ก คือ สร้างอนาคต วางพื้นฐานให้กับเด็กๆ ถ้าเด็กชอบ มีแววเราก็ส่งเสริมเต็มที่  การได้เป็นแชมป์ก็คือจุดหนึ่งที่วางไว้ และคาดหวังว่าไม่แน่อนาคตจะมีเด็กในหนองจอกเป็นแชมป์โลกก็ได้

 ขณะเดียวกัน “ดาด้า เตาเฟส” ยังเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคม โดยคุณดาด้า บอกว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่หนองจอก เป็นคนหนองจอกมา 7 ปี  เป็นนิติบุคคลหมู่บ้านเต็มสิริวิลล์ ตำแหน่งเหรัญญิกเป็นผู้บริหารศูนย์ส่งเสริมเยาวชนต้นกล้ามวยไทยหนองจอก ทำจิตอาสา โครงการฟ้าใสเพื่อเด็กยากจนในถิ่นธุรกันดาน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน  อปพร. เขตหนองจอกรุ่น 17 ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ประจำรุ่น 17 อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  อพม จิตอาสาประราชทาน อาสามัคร ตำรวจบ้านเขตหนองจอก  อส.ตร. เวลาว่างจากครอบครัวคือเวลาจิตอาสา

 คติธรรมที่ประจำใจคุณดาด้า บอกว่า ไม่มีใครเคยสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินก้อนเล็กๆล้ม อย่ามองข้ามพวกเขา และที่สำคัญเหนืองสิ่งอื่นใดก็คือ เราจะอย่างไรให้กีฬามวยไทย ไม่หายไปและ สามารถนำไปพัฒนาเด็กๆ ไปทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

 และนี่ก็คือ “ดาด้า เตาเฟส” ผู้หญิงสุดแกร่งผู้ที่ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคและปัญหาเปลี่ยมล้นไปด้วยจิตใจอันเป็นกุศลทำงานเพื่อส่วนรวม สมแล้วที่เป็นจิตอาสาเป็นแม่พระแห่งวงการมวยเด็กที่น่ายกย่องและชื่นชม

      รองอ๊อด สารคาม