ทัพใหญ่ไทยบุกญี่ปุ่น 16 ก.ค.ลุยโอลิมปิก ยังไม่ฟันธงคนถือธงเปิดโตเกียว 2020 มติชน – มติชน

ทัพใหญ่ไทยบุกญี่ปุ่น 16 ก.ค.ลุยโอลิมปิก ยังไม่ฟันธงคนถือธงเปิดโตเกียว 2020

“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้โตเกียว 2020 เปิดเผยกำหนดการของทีมทัพนักกีฬาไทยชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ว่า ทัพนักกีฬาชุดใหญ่จะออกเดินทางไปแข่งขันในช่วงดึกของวันศุกร์ ที่ 16 กรกฎาคมนี้ โดยจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินเจเเปน แอร์ไลน์ เที่ยวบินเจแอล 034 โดยคณะนักกีฬาไทยทัพใหญ่ชุดดังกล่าว ประกอบด้วย 7 ชนิดกีฬา ได้แก่ เทเบิลเทนนิส, มวยสากลสมัครเล่น, แบดมินตัน, จักรยาน, ว่ายน้ำ, ยิงเป้าบิน, และ ยิงปืน โดยตัวเองซึ่งเดินทางล่วงหน้าไปก่อนในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ จะช่วยไปประสานงาน และดำเนินการอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาไทยทุกคนก่อน

นายธนา กล่าวอีกว่า ในช่วงดึกวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม จะเป็นทีมนักกีฬาเทควันโดไทย ที่จะออกเดินทางไปแข่งขัน ส่วนวันพุธ ที่ 21 กรกฎาคม เป็นจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม เป็นกรีฑา, วันอาทิตย์ ที่ 25 กรกฎาคม เป็นทีมเรือแคนู และเรือกรรเชียง วันพฤหัสบดี ที่ 15 กรกฎาคมโดยจะมีนักกีฬาบางส่วนที่แข่งขันอยู่ต่างประเทศ ก็จะเดินทางจากต้นทางในประเทศนั้นๆ มุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเลย

อาทิ 4 นักกีฬากอล์ฟ ซึ่งก็มีแข่งขันอยู่ที่ญี่ปุ่น ในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา รวมถึง กรีฑา และขี่ม้า ก็จะเดินทางตรงสู่ประเทศญี่ปุ่นเลย ไม่กลับมาไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าสู่มาตรการกักตัว เพื่อเฝ้าระวังเชื้อโควิด-19 ส่วนวินด์เซิร์ฟ และเรือใบ จะเป็นทัพแรกของไทยที่เดินทางไปก่อนตั้งแต่ช่วงดึกวันจันทร์ ที่ 12 กรกฎาคมนี้เลย ด้วยสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ เที่ยวบินเจแอล 034

“ตอนนี้เรายังได้แต่งตั้งแพทย์ที่จะทำหน้าที่จะคอยประสานงานกับเจ้าภาพในเรื่องการตรวจเช็ก และรายงานเกี่ยวกับเรื่องโควิด-19 โดยเฉพาะ ทั้งในกลุ่มนักกีฬาชาย และนักกีฬาหญิงขึ้นมาแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องของการแต่งตั้งนักกีฬาให้ทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์เข้าสู่สนามกีฬาโอลิมปิก สเตเดียม ในพิธีเปิดโตเกียว 2020 วันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เรายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะต้องรอการประชุมเพื่อรับทราบรายละเอียดจากทางเจ้าภาพญี่ปุ่นก่อนว่าจะมีข้อกำหนดและขั้นตอนอย่างไรในพิธีเปิด

บิ๊กต้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า จากนั้นจึงค่อยมาหารือ เพื่อกำหนดคนทำหน้าที่ดังกล่าวของเราอีกครั้ง เบื้องต้นก็จะพิจารณา ก็จะดูจากความเหมาะสมในเรื่องโปรแกรมแข่งขันของนักกีฬาเป็นหลัก โดยต้องไม่ทับซ้อน หรือส่งผลกระทบกับนักกีฬาคนนั้นๆ หากต้องเดินทางมาร่วมพิธีเปิด