“บิ๊กป้อม”อัญเชิญไตรรงค์ใช้วิ่งธง 35 จังหวัด”สมรักษ์”วีรบุรุษทองโอลิมปิกเตรียมออกสตาร์ทไม้เเรก

“พล.อ.ประวิตร” อัญเชิญธงไตรรงค์ เปิดกิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย …รวมใจสู่ชัยชนะ” งานวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ รวมพลังคนไทย ส่งใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึก “โอลิมปิก โตเกียวเกมส์” โดย “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองคนแรกของประเทศไทย เตรียมประเดิมออกวิ่งโบกสะบัดธงไตรรงค์เป็นไม้เเรก

    พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย รวมใจสู่ชัยชนะ” กิจกรรมวิ่งบันทึกประวัติศาสตร์ ที่จัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ผ่านการวิ่งผลัดธงชาติไทย คนละ 1 กม. ต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่หน้าสนามอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา 

    ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์), ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย, พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา, นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา, พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ เเละกิจการโทรคมนาคมเเห่งชาติ พร้อมผู้บริหารวงการกีฬาไทย ผู้เเทนจากบริษัทพันธมิตร ตลอดจนศิลปิน ดารา นักเเสดง อีกมากมายเข้าร่วม

    นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมงานเเถลงข่าวในครั้งนี้อีกหลายราย โดยมีเหล่าทีมชาติไทยในอดีตหลายคนให้เกียรติเข้าร่วม อาทิ สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกคนเเรกของเมืองไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น ในปี 1996, วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2000, ปวีณา ทองสุก เเละ อุดมพร พลศักดิ์ 2 จอมพลังฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 2004 พร้อมด้วยนักกีฬาทีมชาติไทยในยุคปัจจุบัน อาทิ อิสราภา อิ่มประเสริฐสุข (เป้าบิน), อารีย์ณัฎฐา ชวตานนท์ (ขี่ม้า), ดำรงศักดิ์ อินกอง เเละ ภูธเรศ คงรักษ์ นักกีฬาวีลเเชร์เรซซิ่ง เข้าร่วมด้วย 

    พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทุกอย่างต้องหยุดชะงักไปหมด รวมถึงโอลิมปิกเกมส์ที่ถูกเลื่อนออกไปด้วย อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายจัดฯ ยืนยันจะจัดการเเข่งขันขึ้นอย่างแน่นอนในปี 2021 เเละจะทำให้เราได้ดูเเละเชียร์นักกีฬาไทยในมกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ชาติ  ทางรัฐบาลอยากส่งกำลังใจให้กับคณะเจ้าหน้าที่ นักกีฬาตัวเเทนทีมชาติไทยทุกคนที่จะเดินทางไปปฎิบัติภารกิจเพื่อชาติในห้วงเวลาดังกล่าว ขอให้ทุกคนตั้งใจ ทุ่มเท มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อโอกาสประสบความสำเร็จ คว้าชัยชนะเเละเหรียญรางวัลกลับมาฝากคนไทย เเละขออย่าลืมความเป็นไทย เเละสปิริตของการเป็นนักกีฬา เชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการเเสดงออกถึงการรวมกำลังใจของคนไทยที่จะทำให้นักกีฬาไทยได้รับรู้เเละมีกำลังใจในการทำหน้าที่เพื่อชาติต่อไป

    ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวเเละกีฬา เผยว่า กิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ” ถือเป็นงานวิ่งธงชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เชื่อว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นเเละสร้างการมีส่วนร่วมของเเฟนกีฬาและประชาชนคนไทยให้เกิดการรับรู้ เข้าถึง เเละซึมซับบรรยากาศของการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจสำคัญให้กับทัพนักกีฬาไทยในการเดินทางออกไปปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ที่สำคัญในครั้งนี้เรายังมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันกลับมาให้คนไทยได้ร่วมติดตามเชียร์และให้กำลังใจอย่างใกล้ชิดผ่านหลากหลายช่องทางทั้งฟรีทีวีและแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟรีทีวี 6 ช่อง, โทรทัศน์ดาวเทียม T-Sport24s,  Mobile Application ที่ AIS PLAY และ AIS PLAY BOX ครบทุกชนิดกีฬาอีก 12 ช่องรายการ ด้วยความคมชัดระดับ HD ตลอดทั้งวัน 

    ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า นักกีฬาไทยต่างเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องมาตลอดเเบบไม่มีพัก เเม้โอลิมปิกเกมส์จะถูกเลื่อนออกไปจากการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง กกท.ก็ได้ให้การสนับสนุน ส่งเสริม เเละอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาไทยทุกคนทุกชนิดกีฬาที่อยู่ในโครงการอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมที่สุดในการเตรียมควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเชื่อว่าเราจะมีนักกีฬาผ่านเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายได้ราวๆ 40 คน จึงอยากเชิญชวนชาวไทยทั่วประเทศ มาร่วมให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยในการเเข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค.นี้ รวมถึง พาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 24 ส.ค. ถึง 5 ก.ย.64 ด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเชื่อว่านักกีฬาของเราจะสามารถสร้างเเละบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ นำธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาในการเเข่งขันทั้ง 2 มกรรมกีฬาได้อีกสมัยหนึ่งอย่างแน่นอน

    กิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ” เตรียมจะเปิดฉากเริ่มขึ้นวันเเรกอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าตรู่ วันอาทิตย์ ที่ 28 มี.ค.นี้ บริเวณหน้าอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กกท. โดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เเละประธานคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่ง
ประเทศไทยฯ จะเป็นประธานปล่อยตัวนักวิ่ง ณ จุดสตาร์ท กม. ที่ 1 เพื่อส่งต่อธงวิ่งจนครบ 35 จังหวัด ต่อเนื่องรวม 61 วัน ซึ่งในกม.แรก สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์คนแรกของเมืองไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น เมื่อปี 1996 จะเป็นผู้วิ่งธงไตรรงค์ไม้แรก

    สำหรับเส้นทางการวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งประวัติศาสตร์ จะมีขึ้นใน 35 จังหวัด  โดยออกสตาร์ท ที่กรุงเทพมหานคร ก่อนวิ่งต่อไปยัง สมุทรสงคราม สมุทรสาคร  เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา  พัทลุง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำเเพงเพชร ตาก  ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เเพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนเเก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระเเก้ว จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เเละมาสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ 

    ทั้งนี้งานวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ “วิ่งธงชาติไทย …รวมใจสู่ชัยชนะ” โดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ,บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย จำกัด , บริษัท บุญรอดเทรดดิ้งจำกัด, บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เเละ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด โดยผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทางเวปไซต์ https://www.stadiumth.com 
และเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/