‘บิ๊กป้อม’ คว้าผู้ทรงคุณูปการกีฬามวย ‘กกท.’ จัดใหญ่มอบ 66 รางวัลเชิดชูคนมวย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่, ผู้ช่วยปฏิบัติงาน กกท. รวมทั้งผู้บริหารค่ายมวย, นักกีฬา, กรรมการผู้ตัดสิน และบุคลากรในวงการกีฬามวย เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก เมื่อวันที่ 27 กันยายน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า จากจุดเริ่มของ “มวยไทย” ด้วยวิถีของการต่อสู้ พัฒนาเป็นกีฬา ต่อยอดเป็นศิลปะการต่อสู้อีกหลายแขนง สร้างสรรค์อุตสาหกรรมด้านอื่นๆให้คู่ขนานได้ด้วย จนเกิดการพัฒนา และมูลค่าทางเศรษฐกิจในมิติต่างๆ ให้กับประเทศไทย รวมถึงการเป็นหนึ่งใน “ซอฟท์เพาเวอร์” ที่รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างมวยไทย ให้เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมในระดับโลก ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในการร่วมกันขับเคลื่อนมวยไทยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่วางไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ท่านเป็นผู้ทุ่มเท เสียสละ และสนับสนุนกีฬามวยไทยมาโดยตลอด จนปัจจุบัน “มวยไทย” ได้รับการรับรองจากองค์กรกีฬาระดับโลก และแน่นอนเป้าหมายสำคัญของประเทศไทยคือ การบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
“คณะกรรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ในการมอบรางวัลผู้ทรงคุณูปการกีฬามวยอันทรงเกียรตินี้ให้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยวันนี้ได้รับเกียรติจากท่าน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้แทนในการรับมอบรางวัล กระผมขอชื่นชม และแสดงความยินดีต่อผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ทุกท่าน และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนช่วยกันผลักดันมวยไทย ให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น และเป็นกีฬายอดนิยมของผู้คนทั่วโลกอย่างยั่งยืนต่อไป” รมว.พิพัฒน์ กล่าว
ขณะที่ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม กล่าวว่า กกท. ดีใจที่ได้เห็นการรวมพลังของบุคลากรในวงการมวยไทยในการผลักดันกีฬา “มวยไทย” ให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งรัฐบาลโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยไปสู่โอลิมปิก ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนามวยไทยให้มีมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับในระดับการจัดแข่งนานาชาติ และที่ผ่านมาก็มีพัฒนาการ ทั้งในเชิงคุณภาพการจัดการแข่งขัน และปริมาณการจัดการแข่งขันในระดับอาชีพ และกีฬาเพื่อความเป็นเลิศทั้งในมหกรรม “เวิลด์เกมส์” โดยมีเป้าหมายสำคัญในการบรรจุกีฬา “มวยไทย” ในกีฬาที่ยิ่งใหญ่สุดในโลกอย่าง “โอลิมปิกเกมส์”
“การกีฬาแห่งประเทศไทย โดย สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จึงขอใช้โอกาสนี้จัดงานมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ในช่วงปีระหว่าง พ.ศ.2563 และ พ.ศ. 2564 รวมทั้งสิ้น 66 รางวัล เพื่อเป็นการยกย่องชื่นชม แสดงการขอบคุณ เป็นขวัญและกำลังใจให้กับทุกท่าน” รองผู้ว่าการ กกท.กล่าว
สำหรับรางวัลในงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2563 ดังนี้ 1.ผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวย ได้แก่ 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก), 2.ผู้ให้การส่งเสริมสนับสนุนกีฬามวยดีเด่น แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลประเภทบุคคล ได้แก่ เอนก จิตตขจรเกียรติ (หนุ่ยกาแฟโบราณ) ส่วน ประเภทองค์กร ได้แก่ บริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส ผู้จัดจำหน่าย จำกัด กับ บริษัท จี พี พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ประเภทหน่วยงาน ได้แก่ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา
3.หัวหน้าค่ายมวยดีเด่น ได้แก่ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ (ค่าย ส.เตชะพันธ์), 4.ผู้จัดการนักมวยดีเด่น ได้แก่ สุนทรี โลหะพืช (ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์), 5.ผู้จัดรายการแข่งขันมวยดีเด่น ได้แก่ บุญธรรม ภาคโพธิ์ (ศึกเชฟบุญธรรม) 6.นายสนามมวยดีเด่น ได้แก่ ธีรยุทธ หอประเสริฐกิจ, 7.สื่อมวลชนดีเด่น ได้แก่ ชาคร ห่อวโนทยาน (ป๊อป ขุนส่า หนังสือสยามมวย), 8.ผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศดีเด่น ได้แก่ ธนากร สอนดี (ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์), 9.ผู้ฝึกสอนดีเด่น ได้แก่ รอฉาด เทพวารินทร์ (สะตอ เกียรติวิเชียร), 10.ผู้ตัดสินดีเด่น ได้แก่ วรศักดิ์ ภักดีคำ
11.ปูชนียบุคคลกีฬามวยดีเด่น มีทั้งสิ้น 5 ราย ได้แก่ จรัสเดช อุลิต, ประนอม อัมพินย์, วิชิต ชี้เชิญ, รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ และ นริส สิงห์วังชา, 12.ผู้ทรงคุณค่ากีฬามวยดีเด่น สาขาการอนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวย ได้แก่ เสน่ห์ ทับทิมทอง, ชินวธ ศิริสัมพันธ์ และ สาขาผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวย ได้แก่ ดร.สำราญ สุขแสวง (สำราญเดช ส.ด่านชัย) และ พล.ต. ศุภชัย ม่วงกรุง
13.คู่มวยดุเดือดดีเด่น ได้แก่ไฟต์ระหว่าง เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์ ปะทะ ยอดเพชร ส.ปาร์คยิม, 14.ไหว้ครูมวยไทยสวยงามดีเด่นหญิง ได้แก่ จันทกานต์ มโนบาล (พญาหงส์ ส.สุทธิชัย) ส่วน ดีเด่นฝ่ายชาย ศาสตรา ทองทศ (โผน พรัญชัย), 15.นักมวยไทยอาชีพดาวรุ่งดีเด่นหญิง ได้แก่ นิราวรรณ ตังจิว หรือ เสน่ห์จันทร์ ศักดิ์ชำนิ (สจ.โต้ง) ส่วน ดีเด่นชาย ศุภกิตติ์ อ่อนตา หรือ ฤทธิเดช ศิษย์เพชรฉลูกัณฑ์, 16.นักมวยสากลสมัครเล่นหญิง ได้แก่ ใบสน มณีก้อน ส่วน ฝ่ายชาย ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด
17.นักมวยสากลอาชีพชาย ได้แก่ ปัญญา ประดับศรี หรือ เพชรมณี ศ.จิตพัฒนา (ซีพีเอฟ) ส่วน ฝ่ายหญิงไม่มีผู้เหมาะสม, 18.นักมวยไทยสมัครเล่นหญิง ได้แก่ จุฬารัตน์ กระแสขันธ์ ฝ่ายชาย กฤษณะ พัดไสว, 19.นักมวยไทยอาชีพดีเด่นหญิง พรกมล ทองเผือก หรือ ขวัญข้าว พ.เมืองเพชร ส่วน ฝ่ายชาย เป็นของ วัชรพงษ์ จูชาวนา หรือ ก้องไกล เอ็นนี่มวยไทย
ด้านรางวัลในงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2564 ดังนี้ 1.ผู้ให้การส่งเสริมสนับสนุนกีฬามวยดีเด่น แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย รางวัลประเภทบุคคล ได้แก่ นริส สิงห์วังชา ส่วน ประเภทองค์กร ได้แก่ บริษัท ท็อป คิงส์ บ็อกซิ่ง จำกัด ด้าน ประเภทหน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้ศิลปะมวยไทยบ้านเชียงรากใหญ่ และ สมาคมสืบสานอนุรักษ์มวยไทยโลก, 2.หัวหน้าค่ายมวยดีเด่น ได้แก่ พ.ต.ท. สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์, 3.ผู้จัดการนักมวยดีเด่น ได้แก่ อริยวัฎ บุษราบวรวงศ์, 4.ผู้จัดรายการแข่งขันมวยดีเด่น ได้แก่ ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ 5.นายสนามมวยดีเด่น ได้แก่ ธีระยุทธ หอประเสริฐกิจ
6.สื่อมวลชนดีเด่น ได้แก่ ภพธร รุ่งสมัย, 7.ผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศดีเด่น ได้แก่ สุพันธ์ ชะใบรัมย์ และ คึกฤทธิ์ กมลฤกษ์, 8.ผู้ฝึกสอนดีเด่น ได้แก่ ร่อเฉด เทพวารินทร์, 9.ผู้ตัดสินดีเด่น ได้แก่ พงษ์พัฒน์ ว่องไว, 10.ปูชนียบุคคลกีฬามวยดีเด่น มีทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ พล.ต.อำนาจ การงาน, ดร.จตุชัย จำปาหอม, ผจญ เมืองสนธิ์ และ นอง เสียงหล่อ, 11.ผู้ทรงคุณค่ากีฬามวยดีเด่น สาขาการอนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวย ได้แก่ ชาญณรงค์ สุหงษา และ ทรงชัย รัตนสุบรรณ
12.คู่มวยดุเดือดดีเด่น ได้แก่ไฟต์ระหว่าง เสกสรร อ.ขวัญเมือง ปะทะ เพชรมหาชน จิตรเมืองนนท์, 13.ไหว้ครูมวยไทยสวยงามดีเด่นหญิง รุจิรา วงษ์ศรีวอ ส่วน ไหว้ครูมวยไทยสวยงามดีเด่นชาย ได้แก่ ศาสตรา ทองทศ, 14.นักมวยไทยอาชีพดาวรุ่งดีเด่นหญิง ได้แก่ พรกมล ทองเผือก ส่วน นักมวยไทยอาชีพดาวรุ่งดีเด่นชาย ได้แก่ ธนากร สมัน, 15.นักมวยสากลสมัครเล่นหญิง ได้แก่ สุดาพร สีสอนดี ด้าน นักมวยสากลสมัครเล่นชาย ได้แก่ วุฒิชัย ยุระชัย
16.นักมวยสากลอาชีพชาย ได้แก่ ปัญญา ประดับศรี, ส่วนฝ่ายหญิงไม่มีผู้เหมาะสม, 17.นักมวยไทยสมัครเล่นหญิง ได้แก่ สมฤทัย สิริปทุม ส่วน นักมวยไทยสมัครเล่นชาย ได้แก่ อนึ่ง คัฒมารศรี, 18.นักมวยไทยอาชีพดีเด่นหญิง ได้แก่ นิราวรรณ ตังจิว ส่วน นักมวยไทยอาชีพดีเด่นชาย ได้แก่ ลิขิต ตาปะโคน