วราพร นักคิกบ็อกซิ่งทีมชาติร่วมเวิร์กช็อปเยาวชน ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น – ข่าวสด

วราพร ใจเที่ยง นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ร่วมนำทักษะขั้นพื้นฐานของคิกบ็อกซิ่งมาสอนให้กับเยาวชนไทย ในโครงการ “ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น”

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดตัวโครงการ “ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น” ตั้งเป้าส่งเสริมให้เยาวชนมีพื้นฐานการเล่นกีฬาที่ถูกต้อง โดยคิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬาที่ได้การยอมรับในระดับสากล ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ลงมติรับกีฬาคิกบ็อกซิ่งอย่างเป็นทางการแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะบรรจุในโอลิมปิกในอนาคต

สำหรับประเทศไทย คิกบ็อกซิ่งอาจจะยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ปัจจุบันได้มีการส่งเสริมกีฬาประเภทนี้มากขึ้น และล่าสุดไทยยังได้เจ้าภาพจัดคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชียรายการ Asian Kickboxing Confederation Championships 2022 ทำให้กีฬาประเภทนี้ได้รับความสนใจจากคนไทยมากขึ้น

• ธีราทร ไม่สนอาถรรพ์ บูกิต จาลิล มั่นใจทัพช้างศึกเก็บชัยได้

โครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น จึงได้นำกีฬาคิกบ็อกซิ่งมาฝึกทักษะให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการที่ โรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งนักกีฬาที่มาร่วมเวิร์กช็อปในครั้งนี้ล้วนเป็นนักกีฬาต้นแบบที่จะเป็นแรงบันดาลให้กับเยาวชนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวราพร ใจเที่ยง นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งทีมชาติ เจ้าของเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 31 และเหรียญเงินคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย 2022 ประมวลศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ อดีตแชมป์ WBO เอเชีย 2 สมัย และ สมศักดิ์ ต๊ะสิทธิ์ แชมป์โลกมวยสากลของ WBA รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวต มาถ่ายทอดทักษะ

นางสาววราพร ใจเที่ยง กล่าวว่า เหตุผลที่เล่นกีฬาคิกบ็อกซิ่ง เพราะอยากลองเล่นกีฬาใหม่ ๆ พอมาเล่นได้มาแข่งขัน และผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องมีการฝึกซ้อม ซึ่งคติประจำใจที่ยึดถือเป็นแนวทางในการฝึกซ้อมคือ ตั้งใจ มีวินัย มีสติ และทำทุกวันให้ดีที่สุด ยิ่งตอนนี้มีเป้าหมายคือเหรียญทอง และอยากพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งอาชีพ ก็ยิ่งต้องฝึกซ้อมให้มากขึ้น

“สำหรับเวิร์กช็อปที่มาร่วมทำกับโครงการ ปรับ เปลี่ยน ปลุก ปั้น ในครั้งนี้ ได้นำทักษะขั้นพื้นฐานของคิกบ็อกซิ่งมาสอน ซึ่งน้อง ๆ มีแววหลายคน ถ้าได้ฝึกซ้อมต่อเนื่องน่าจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อยากฝากบอกน้อง ๆ ว่า ทุกคนไม่มีใครเคยเป็นมาก่อน เราสามารถฝึกกันได้ ขอให้ตั้งใจ ปัจจุบันมีการแข่งขันหลายรายการ ทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น ถ้าตั้งใจจริงก็มีโอกาสติดทีมชาติ”

ด้านนายพีรพัฒน์ ต้นบุญ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม กล่าวว่า “ปัจจุบันผมเล่นกีฬาฟุตซอล วันนี้ได้มาฝึกทักษะกีฬาคิกบ็อกซิ่งรู้สึกชอบ ชอบช่วงที่มีการแข่งขันเตะ ต่อย คิดว่ามีประโยชน์มาก สามารถใช้ป้องกันตัวได้ ส่วนตัวเป็นนักกีฬาสมัครเล่น โครงการนี้มีนักกีฬามืออาชีพมาช่วยสอน ทำให้ทราบว่ามืออาชีพเขาคิดกันอย่างไร เขาเล่นกันอย่างไร ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักกีฬาสมัครเล่นแบบผม สำหรับอุปกรณ์กีฬาที่โครงการนำมามอบให้ดีมาก บางอย่างโรงเรียนเราไม่มี จะทำให้ผมและเพื่อน ๆ ได้ใช้อุปกรณ์กีฬาใหม่ ได้ลองเล่นกีฬาใหม่ ๆ ด้วย”