วัคซีนมีน้อยใช้สอยประหยัด ‘กกท.’ ไม่ดันฉีดมั่วเน้นกีฬาใหญ่

ตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ประสานระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความอนุเคราะห์ขอรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ที่มีภารกิจต้องเดินทางออกไปเเข่งยังต่างประเทศ โดยทัพเรือใบได้ประเดิมฉีดวัคซีนเป็นกีฬาแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เพื่อเตรียมเดินทางไปแข่งขันเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ รายการ “มุสสานาห์ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ 2021” ที่ประเทศโอมาน ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-8 เม.ย. นอกจากนี้ ยังมีกีฬาหลายชนิดที่เตรียมวางแผนเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ตอนนี้นักกีฬาทีมชาติไทยที่มีภารกิจไปแข่งขันระดับนานาชาติในต่างประเทศก็จะเริ่มทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนตามลำดับแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กกท. จะเปิดให้สมาคมกีฬาเสนอแผนการส่งนักกีฬาไปแข่งขันในต่างประเทศเข้ามาได้ แต่ กกท. จะพิจารณาตามความเหมาะสม เน้นไปที่รายการสำคัญ อาทิ การแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิก “โตเกียวเกมส์”, การแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก เป็นหลัก เนื่องจากขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังมีจำนวนจำกัด ต้องลำดับความสำคัญให้กับทุกภาคส่วนด้วย สำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะจัดทำเอกสารหรือหลักฐานให้นักกีฬานำติดตัวไปแสดงยังประเทศปลายทาง เพื่อช่วยลดจำนวนวันกักตัวหรือได้รับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันตามกำหนดของแต่ละประเทศ

นายใหญ่ค่ายหัวหมาก กล่าวต่อว่า ตอนนี้ไม่กังวลใจกับการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทยมาก เนื่องจากสามารถกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน กกท. เตรียมจัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม ข้อจำกัด หรือคำแนะนำต่างๆ โดยจะยึดหลักของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นสำคัญ ขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงการปรับรายละเอียดปลีกย่อยให้สอดคล้องกับแต่ละชนิดกีฬา นอกจากนี้ ยังมีทีมงานที่ติดตามฝึกซ้อมของนักกีฬาทั้งที่ได้รับโควตาและนักกีฬาที่อยู่ระหว่างรอแข่งขันรอบคัดเลือกอย่างใกล้ชิด หากพบปัญหาก็สามารถแจ้งมาที่ กกท. ได้ทันที

ทั้งนี้ การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค.-8ส.ค.64 โดยนักกีฬาได้รับสิทธิ์ชิงชัยรอบสุดท้ายแล้วจำนวน 16 รายการ จำนวน 18 คน แบ่งเป็น ยิงเป้าบิน 3 คน “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์ (แทร็ปชาย), “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (สกีตหญิง), “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข (สกีตหญิง), เรือใบ 1 คน “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม (เลเซอร์ เรเดียลหญิง), วินด์เซิร์ฟ 1 คน “ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม (อาร์เอสเอ็กซ์หญิง),จักรยาน 1 คน “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ (ถนนหญิง), ยิงปืน 3 คน “กัปตัน” อิศรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร (ปืนสั้นยิงเร็ว 25 ม.ชาย), “เอิน” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ (ปืนสั้นสตรี 25 ม.), “ธันย่า” ธันยพร พฤกษากร (ปืนสั้นสตรี 25 ม.)

ขี่ม้า 1 รายการ 3 คน ขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง (อาริย์ณัฏฐา ชวตานนท์ , กรธวัช สำราญ และ วีรภัฎ ปิฏกานนท์), เทควันโด 1 คน “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (รุ่น 49 กก.หญิง), มวยสากล 4 คน ใบสน มณีก้อน (รุ่น 69 กก.หญิง), “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (รุ่น 52 กก.ชาย), “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี (รุ่น 60 กก.หญิง), “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (รุ่น 57 กก.ชาย) และ กรีฑา 1 คน คีริน ตันติเวทย์ (วิ่ง 10,000 ม.)