วันที่ 31 มี.ค. 65 ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “เลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ” ซึ่งจัดโดยเดอะ เลเจนด์ อารีนา, กลุ่มบริษัทพราว และบลูพอร์ต หัวหิน และจะจัดการแข่งขันทั้งสิ้น 4 สนาม ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2565 โดยสนามแรก จะประเดิมสังเวียนกันในวันที่ 2 เมษายนนี้ ที่บริเวณลาน เดอะ สแควร์ หน้าศูนย์การค้า บลูพอร์ต หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
คู่เอกจะเป็นการชิงชัยในรุ่นเลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ 56 กก.ชาย ระหว่าง “ไทเกอร์ชาร์ค” พยุงศักดิ์ สิงห์ฉลาด นักยูยิตสูทีมชาติไทย วัย 27 ปี พบกับ “เดอะดราก้อน” อเล็กซัน มังกร แบรี่ จอมเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปี โดยคู่นี้เป็น พยุงศักดิ์ ที่มีภาษีเหนือกว่า เพราะผ่านการขึ้นสังเวียน MMA มาแล้ว 4 ครั้ง สถิติ ชนะ 2 แพ้ 2
การแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้
คู่ที่ 1 รุ่นซูเปอร์ ไฟต์ 70 กก.ชาย ธนวัฒน์ รัศมิ์ชินฤทธิ์ นักสู้ครูฝึกทหารพลร่ม พบ จักรภพ รัตนมังสังค์ นักดับเพลิง
คู่ที่ 2 รุ่นเลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ 52 กก.หญิง ลูกน้ำ บุญสอน นักมวยปล้ำ พบ ปวีณา พละกาล นักมวยไทย รวมทั้งมวยปล้ำ และยูยิตสู
คู่ที่ 3 รุ่นซูเปอร์ ไฟต์ 66 กก. เอกชัย ญาติฝูง พบ ธนโชติ คำดี นักกีฬายูยิตสู ฟูล คอนแทคต์
คู่ที่ 4 รุ่นเลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ 56 กก.ชาย กองพล ลพเมฆ นักมวยไทยจอมเก๋า พบ ปีเตอร์ เดนเนโซ นักสู้ดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก
คู่ที่ 5 รุ่นซูเปอร์ ไฟต์ 65 กก. อัลวาโร เวรา นักมวยไทยชาวสเปน พบ วิศรุต หนุ่มน้อย นักกีฬามวยไทย แชมป์กีฬาแห่งชาติ 3 สมัย รวมทั้งนักมวยสากล และนักยูยิตสู
คู่ที่ 6 รุ่นเลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ 52 กก.หญิง ณัฐณา บุญยืน นักมวยไทย และยูยิตสู พบ วรรษภิญญา แก้วโขง นักมวยไทย และคูราช
คู่ที่ 7 รุ่นซูเปอร์ ไฟต์ 61 กก. ณัฐวุฒิ แก้วควรชุม นักมวยไทย และมวยปล้ำ พบ จาคุบ เวย์แมน นักมวยปล้ำชาวสหรัฐฯ โดยเริ่มแข่งขันคู่แรก เวลา 19.00 น.
ทั้งนี้ “วิว” เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโด ฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ในฐานะโปรโมเตอร์ เปิดเผยว่า “ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์การจัดทัวร์นาเมนต์เทควันโดระดับประเทศมาแล้ว ตอนนี้มาทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนกีฬาต่อสู้ที่เดอะ เลเจนด์ อารีนา จึงปรึกษากับทาง ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานที่ปรึกษาฯ และได้จัดการแข่งขันรายการ เลเจนด์ เอฟซี “เลเจนด์ ไฟต์ติ้ง แชมเปียนชิพ” โดยเชื่อว่าจะรายการที่ช่วยสร้างนักกีฬา MMA ของไทยให้ก้าวไปสู่ในระดับโลกต่อไป รวมทั้งยังเป็นการเผยแพร่มวยไทยอีกด้วย สำหรับการแข่งขันครั้งนี้จะมีมวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แต่ละรุ่นจะมี 4 คนเป็นรอบรองชนะเลิศ และผู้ชนะผ่านเข้าไปชิงแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งหมด 4 สนาม”
“ส่วนหน้าที่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทใหม่ที่ท้าทาย และทำให้เราได้ใช้ทุกประสบการณ์ที่ผ่านมาในการทำหน้าที่โปรโมเตอร์ครั้งแรกนี้ แต่ก็ดีใจ และรู้สึกสนุก เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ และรักหลงใหลมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตัววิวเองก็ผ่านมาหลายบทบาท และจากประสบการณ์ที่เราได้เจอกับนักกีฬาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวมากมาย เราก็อยากจะปั้นนักกีฬาไทยให้ไปสู่ระดับโลก เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างมูลค่าให้กับตัวนักกีฬาด้วย ที่เมื่อก่อนเป็นสมัครเล่น ต่อไปก็ก้าวเป็นนักกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัว ซึ่งเหมือนกับเป็น Soft Power ในตัวอยู่แล้ว”.
ระเบิดความมันของสุดย…
สนามมวยลุมพินี ประกา…
This website uses cookies.