“ชญาภา” เหน็บ “บิ๊กตู่” สุดอนาถสภาพเหมือน หมดอายุ สอบตกทุกด้าน งง ทำไมกองเชียร์กล้าเทียบชั้น ”ทักษิณ” ทั้งที่ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่กองเชียร์ฝ่ายรัฐบาลขาประจำออกโรงอวดอ้างสรรพคุณรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเปรียบเทียบว่าผลงานดีกว่ายุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีร้อยเท่า โดยใช้วาทกรรมซ้ำซากกล่าวหาโจมตีนายทักษิณ แล้วยกยอว่าพล.อ.ประยุทธ์คือผู้เสียสละทำเพื่อประเทศชาติ เชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตาทั้งที่อยู่มาจนจะครบวาระ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยแม้แต่จะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตัวเองที่ยื่นกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยไร้การท้วงติง ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสและไม่จริงใจต่อประชาชนแล้ว
น.ส.ชญาภากล่าวต่อว่า หากกล่าวถึงผลงานโดยรวมของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เกือบ 8 ปีที่บริหารประเทศนั้น ถือว่าสอบตกในทุกด้านไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม นโยบายที่เคยหาเสียงไว้ก็ทำได้ไม่ครบถ้วน ความยากลำบากจึงตกอยู่กับพี่น้องประชาชน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังดันทุรังอยู่ต่อ ทั้งที่โลกความเป็นจริงประชาชนคิดอย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์คงรู้อยู่แก่ใจดี แต่หากจะกล่าวถึงผลงานยุครัฐบาลนายทักษิณ เรียกว่า ยุคประชาธิปไตยกินได้ ประชาชนอยู่ดีกินดี นโยบายยุคไทยรักไทยยังสร้างคุณูปการและประโยชน์กับพี่น้องประชาชนจนถึงทุกวันนี้ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่ทั่วโลกยอมรับ และ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเคยนำไปพูดอวดอ้างบนเวทียูเอ็น ทั้งที่เคยตำหนิว่าเป็นภาระงบประมาณและไม่เคยให้ความสำคัญกับโครงการนี้ แต่ก็ไม่กล้ายกเลิก เข้าข่ายเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงหรือไม่
น.ส.ชญาภากล่าวต่อว่า หรือเเม้เเต่การจัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ประสบความสำเร็จอย่างสง่างามสมศักดิ์ศรีประเทศไทยจนถูกกล่าวขวัญว่าอาจเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชียที่น่าจับตามอง แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้ประเทศไทยต้องมาเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกภายใต้รัฐบาลสืบทอดอำนาจ มีผู้นำไร้ความสามารถ เป็นรัฐบาลที่มีปมด้อย ไม่เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ ถ้าเปรียบผลงานให้เห็นชัดเจนคือ เปรียบเสมือนมวยวัดกับมวยสากลคือคนละชั้นกัน
น.ส.ชญาภากล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ โพลล่าสุดจากศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 25.28 คนสนับหนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรค พท. นั่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์คะแนนหล่นวูบรั้งท้าย ขณะที่พรรค พท. คะแนนนิยมยังนำโด่งขาดลอย จนทำเอากองเชียร์ฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พากันหวั่นไหวใจสั่น จนต้องหากลวิธีสกัดกั้นกระเเสเพื่อไทยแลนสไลด์ในทุกวิถีทาง
“แม้แต่โพลยังสู้ลูกไม่ได้ เหตุใดจึงมีความกล้าหาญไปเทียบรุ่นพ่อ สะท้อนว่าประชาชนเอือมระอาและต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ฝากไปถึงกองเชียร์รัฐบาลประยุทธ์ว่า หากเป็นรัฐบาลที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนจะสรรเสริญเยินยอเอง ไม่ต้องเสียเวลาให้เหล่าลิ่วล้อเร่ยกยอกันเอง รัฐบาลประยุทธ์ก็เปรียบเหมือนสินค้าหมดอายุ ที่พยายามโฆษณาสรรพคุณเกินจริง เที่ยวยัดเยียดให้ประชาชนก็ไม่มีใครขานรับ จนต้องทำทุกวิธีทาง งัดทุกกลเม็ดโดยไม่สนใจหลักการถูกผิดเพื่อให้ตัวเองและพวกพ้องได้สืบทอดอำนาจต่อ น่าละอายเป็นอย่างมาก” น.ส.ชญาภากล่าว