“เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ วัย 23 ปี นักมวยสากลหญิง ฟลายเวต รุ่น 51 กิโลกรัม ซึ่งแพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศ มวยสากลโอลิมปิก 2020 โดยแพ้ให้กับ บูเซนาซ ชาคีโรกลู อายุ 25 ปี จากตุรกี เจ้าของเหรียญเงินมวยชิงแชมป์โลก 2019, เหรียญทองยูโรเปียนเกมส์ 2019, เหรียญทองชิงแชมป์ยุโรป 2019 ระบุว่า เป้าหมายของเธอ คือการทำผลงานเพื่อกลับมาแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส และหากเป็นไปได้ คือ อยากแก้มือกับ บูเซนาซ ชาคีโรกลู จากตุรกี
“เสียดายที่ไม่สามารถไปถึงรอบลึกกว่านี้ แต่ก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว จากนี้ไปจะซ้อมให้หนักยิ่งขึ้น เพื่อกลับไปแก้มือในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส”
การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์ 2020 วันอาทิตยที่ 1 ส.ค. ในรอบ 8 คนสุดท้าย หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ในรุ่นฟลายเวต 51 กิโลกรัม กัมหญิง “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ แพ้ให้กับ บูเซนาซ ชาคีโรกลู 5-0 เสียง ทำให้นักมวยสากลจากตุรกี ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วน “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ จบเส้นทางที่รอบ 8 คน
มวยสากลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า เสียใจที่ไม่สามารถเข้ารอบให้ลึกกว่านี้ได้ ทำเต็มที่แล้ว ยกแรกคะแนนตาม ทำให้ต้องเปลี่ยนเกมเป็นเดินเข้าหา จึงเข้าทางอีกฝ่าย เพราะเป็นมวยประเภทตั้งรับและสวนกลับ กีฬามีแพ้มีชนะการเข้าถึงรอบ 8 คน ถือว่าเกินจากเป้าหมายแล้ว สำหรับตนที่ได้มาโอลิปปิกเกมส์ครั้งแรก
“จะนำประสบการณ์จากครั้งนี้กลับไปพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ อยากพิสูจน์ให้โค้ชหรือทุกคนเห็นว่าทำได้ดีไม่แพ้ใคร และทำหน้าที่อย่างเต็มที่่ทุกครั้งที่ขึ้นสังเวียน หลังจากนี้จะซ้อมให้หนักกว่าเดิม หากมีโอกาสจะต้องไปแก้มือที่โอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยเฉพาะกับนักมวยตุรกี ที่แพ้มาจะกลับไปทวงแค้นให้ได้” เธอ กล่าว
ระเบิดความมันของสุดย…
สนามมวยลุมพินี ประกา…
This website uses cookies.