“รถถัง” ซูฮกหัวใจ “ทาเกียร์” ไม่เจ๋งจริงคงไม่ขันอาสาเป็นมวยขัดตาทัพ

“รถถัง จิตรเมืองนนท์” เตรียมดับเครื่องชนในศึก ONE: FISTS OF FURY วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยการประเดิมกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ เพื่อสานต่อความสำเร็จอีกขั้นในการท้าชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ในอนาคต

เดิมทีศึกนี้ รถถัง ถูกประกบให้เจอกับนักมวยเก่งจากสเปน “อเลคานโดร ริวาส” แต่ด้วยเหตุผลเรื่องมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัย อเลคานโดร จึงจำเป็นต้องถอนตัว โดยส้มหล่นไปที่นักชกชาวรัสเซีย “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” ที่ขันอาสามาเป็นนักมวยขัดตาทัพอย่างกล้าหาญในเวลากระชั้นชิด

รถถัง จิตรเมืองนนท์

“ผมไม่คิดว่าการที่ต้องเจอกับ ทาเกียร์ จะทำให้ผมชกยากขึ้นนะครับ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมพร้อมเดินบู๊เดินแลกกับทุกคน เพราะผมเองก็มั่นใจในการฝึกฝนคิกบ็อกซิ่งของตัวเองตลอดระยะเวลาร่วม 2 เดือน ตั้งแต่ที่รู้ว่ามีรายการ ผมซ้อมหนักมากครับ”

“ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทาเกียร์ ก็ไม่ค่อยได้ชกเคลื่อนไหวเท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูจากวิดีโอการชกก่อนหน้า เขาเป็นมวยที่ใช้ได้คนหนึ่ง เคยชกในไทยมาก่อนด้วย แม้จะมีอายุมากกว่าผมอยู่ 5 ปี แต่ก็ประมาทไม่ได้เลย”

ทาเกียร์ คาลิลอฟ

ชื่อชั้นของ รถถัง ระดับตัวท็อปของสังเวียน ดังนั้นความมั่นใจในการขันอาสาเป็นนักมวยแทนย่อมต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมหาศาล ทาเกียร์ เจ้าของแชมป์ WMC I-1 Global เปิดยิมสอนมวยไทยที่ประเทศบ้านเกิดในชื่อ “สมิงพราย มวยไทย” ดังนั้นเป็นไปได้ว่าในช่วงโควิด-19 เขาคงฟิตซ้อมอยู่ในยิมของตัวเองอยู่เสมอ

“ผมชกมวยมาตลอดชีวิต ไม่เคยเป็นมวยแทน หรือต้องเปลี่ยนตัวกับใครกะทันหัน ซึ่งผมยอมรับนะว่า การที่เขากล้ามาชนกับผมแบบนี้ แสดงว่าต้องมีความมั่นใจระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องฟิตซ้อมอยู่สม่ำเสมอแน่ๆ เขาก็ต้องคิดว่าสู้กับผมได้ ถึงกล้าตอบรับครับ”