หลังจากที่ รถเหล็ก เรียนจบชั้น ปวส. ที่บ้านเกิดใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เขาก็เดินทางเข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯ เมื่อตนเห็นว่าหลังซ้อมยังพอมีเวลาว่างจึงตัดสินใจลงเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) ซึ่งเป็นสถาบันที่สนับสนุนด้านการศึกษาให้กับนักกีฬาอาชีพ โดยเทียบโอนจากระดับ ปวส. ต่ออีก 2 ปีก็จบปริญญาตรีในสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ด้วยความที่เป็นคนสนใจใฝ่รู้และให้ความสำคัญกับการศึกษา รถเหล็ก ตัดสินใจเรียนต่อในระดับปริญญาโทในสาขารัฐประศาสนศาสตร์ซึ่งเขามองว่าสามารถนำความรู้ด้านบริหารจัดการไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิตในอนาคต โดยเผยถึงประสบการณ์การเรียนควบคู่ไปกับการชกมวยว่า
“ทีแรกผมไม่ได้คิดว่าจะเรียนต่อปริญญาโท วันจันทร์ถึงวันศุกร์ผมซ้อมมวย กลางวันนอนพัก ตกกลางคืนพอมีเวลาว่าง ผมคิดว่าเรียนต่อดีกว่า เอาเวลาตรงนั้นมาอ่านหนังสือบ้าง ทยอยทำงานส่งอาจารย์บ้าง ช่วงแรกๆ ต้องเข้าเรียนทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พอเรียนมาสักระยะก็เหลือเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ จนสุดท้ายก็เหลือวันอาทิตย์วันเดียว”
“ความยากลำบากในการเรียนไม่มีอะไรมากนอกจากเราต้องปลุกตัวเองให้ตื่นเพื่อไปเรียนหนังสือ ไปฟังอาจารย์ ทั้งที่บางครั้งเราเหนื่อยและอยากพัก อีกอย่างคือเมื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้น มันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“บางคนเห็นหน้าผมแล้วไม่เชื่อ บอกหน้าตาแบบนี้เหรอจบปริญญาโท ผมมีความพยายาม ผมเชื่อว่าผมสามารถเรียนได้ และผมก็ทำสำเร็จจริงๆ”
ทั้งนี้ รถเหล็ก จบการศึกษาระดับปริญญาโท เมื่อปี พ.ศ.2558 ตอนอายุ 25 ปีเท่านั้น
สำหรับแฟนๆ ที่คิดถึงผลงานของ รถเหล็ก อดใจรออีกไม่นานเพราะเขากำลังจะกลับมาลงสังเวียนเร็วๆ นี้ โดยจะเป็นการข้ามสายจากมวยไทยมาชกคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกในศึก ONE: NEXTGEN III ซึ่งจะออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564
แฟนๆ สามารถติดตามชมศึกครั้งนี้ได้ตั้งแต่เวลา 19.30 น. ผ่านทางแอปมือถือ ONE Super App, ยูทูบ ONE Championship, AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS) และทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.
ระเบิดความมันของสุดย…
สนามมวยลุมพินี ประกา…
This website uses cookies.