สาลิกาคาบข่าว Vol.263 ~ salika – Salika.co

ดึงต่างชาติศักยภาพสูงลงทุนพันธบัตร พัฒนาเทคโนโลยี ปั้นรายได้ทดแทนท่องเที่ยว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอยืนยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนั้น การมีผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเข้ามาทำงานหรือพักอาศัย ทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่หายไปของไทย บรรเทาผลกระทบจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะเดียวกันยังจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีทักษะสูงด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เข้ามาเสริมศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ด้วยเกิดการเชื่อมต่อเทคโนโลยี ถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ยกระดับทักษะและสมรรถภาพ และเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้กับแรงงานภายในประเทศ ทั้งนี้ มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มที่ชัดเจน ได้แก่ (1) กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง (2) กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (3) กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และ (4) กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ  ซึ่งแต่ละกลุ่มยังมีเงื่อนไขที่ต้องเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนและการพัฒนาประเทศไทย อาทิ ลงทุนขั้นต่ำในพันธบัตรรัฐบาลไทยตั้งแต่ 250,000-500,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีหลักฐานการลงทุนในประเทศไทย มีรายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

อย. รอข้อมูลความปลอดภัย ก่อนพิจารณาฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กอายุ 3-17 ปี

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เผยว่า จากการที่บริษัท ไบโอ จีนีเทค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มในประเทศไทย ได้ยื่นเอกสารกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขออนุญาตขยายกลุ่มอายุผู้ใช้วัคซีน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป เป็นตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ อย. และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณาด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยมีมติยังไม่สามารถอนุญาตขยายการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เนื่องจากข้อมูลความปลอดภัยในการใช้วัคซีนยังไม่เพียงพอ และขาดข้อมูลด้านประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันโรคในกลุ่มอายุ 3-17 ปี ทั้งนี้ อย. ได้แจ้งให้ทาง บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด รับทราบ และขอให้นำส่งข้อมูลเพิ่มเติมแก่ อย. โดยด่วน โดยเฉพาะข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิผลที่ได้จากประสบการณ์การใช้วัคซีนแบบฉุกเฉินในเด็กจากประเทศต่างๆ ที่อนุญาต เช่น สาธารณัฐประชาชนจีน สหรัฐอาหรับอิมิเร็ตส์ เพื่อให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาโดยเร็วต่อไป

สคช. แกะกล่อง 5 มา​ตรฐานอาชีพ​ใหม่ที่ตลาดแรงงานต้องการเร่งด่วน

นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมกับเครือข่ายในระบบคุณวุฒิวิชาชีพจัดทำมาตรฐานอาชีพ ยึดโยงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและรองรับความต้องการกำลังคนอย่างเร่งด่วนของตลาดแรงงาน รวมทั้งผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากมาตรฐานอาชีพและมืออาชีพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของกำลังคนในประเทศให้เทียบเท่าระดับสากล อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจและสังคมไทยให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย 1. สาขาวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับและโลหะมีค่า (ระยะที่ 2) เป็นการเสริมสร้างศักยภาพและบทบาทความเป็นผู้นำในธุรกิจการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็น 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานที่ร่วมกับสถาบันฯ จัดทำมาตรฐานอาชีพดังกล่าว 2. สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ สาขาจิตวิทยา เป็นการจัดทำมาตรฐานอาชีพเพื่อรองรับบุคลากรด้านจิตวิทยาสาขาอื่นๆในไทย นอกเหนือจากอาชีพนักจิตวิทยาคลินิกที่ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ อาทิ บุคลากรด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็กและผู้สูงวัย รวมทั้งการปฏิบัติงานเบื้องต้นด้านการปรึกษาเชิงจิตวิทยา โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนการจัดทำมาตรฐานอาชีพดังกล่าว 3. สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สาขางานระบบส่งกระแสไฟฟ้า และสาขางานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ เป็นการทำงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะสร้างกลไกการรับรองกำลังคนให้มีประสิทธิภาพสู่ระดับสากล โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นหน่วยงานที่ปรึกษาโครงการในการจัดทำมาตรฐานอาชีพนี้ 4. สาขาวิชาชีพอนุรักษ์พื้นบ้านและศิลปหัตถกรรม (ระยะที่ 2) (งานศิลป์แผ่นดิน) เป็นการทำงานร่วมกับสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ในการสงวนรักษาองค์ความรู้ที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของประเทศ อันเป็นเอกลักษณ์ทางความงามเฉพาะด้านของไทย ซึ่งเกี่ยวเนื่องทั้งช่างหัวโขน ช่างพัสตราภรณ์ ช่างเขียน ช่างปูนปั้น ช่างรัก โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนการจัดทำมาตรฐานอาชีพดังกล่าว 5. สาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์การกีฬา อาชีพมวยไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งสามารถนําไปประกอบเป็นอาชีพ พร้อมทั้งพัฒนาสู่รูปแบบธุรกิจระดับสากล ซึ่งในปัจจุบันรูปแบบธุรกิจมวยไทยได้ต่อยอดจากมวยไทยเพื่อการแข่งขัน เป็นมวยไทยเพื่อการออกกำลังกายและการป้องกันตัว ซึ่งมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนการจัดทำมาตรฐานอาชีพดังกล่าว

ซีพีเอฟ ชวน Start Up ทั่วโลกร่วมประกวดผลงาน “โปรตีนจากพืช” ต่อยอดงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์

ดร.ลลานา ธีระนุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ตระหนักถึงเทรนด์อาหารโปรตีนจากพืชมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันก็มีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารจากพืชที่คุณสมบัติพิเศษมากขึ้นทั้งในแง่รสชาติ เนื้อสัมผัสที่เหมือนกับเนื้อจริงมากขึ้น บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพทั่วโลก เพื่อช่วยสานพันธกิจในการสร้างผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือกเนื้อสัตว์จากพืชที่มีความชุ่มฉ่ำ รสอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนเนื้อสัตว์จริง จึงได้ร่วมมือกับผู้จัดงานประชุมระดับภูมิภาค Asia – Pacific Agri-Food Innovation Summit จัดกิจกรรมประกวดเพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีผลงานวิจัยด้าน Plant-based protein ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อที่จะร่วมงานยกระดับผลงานวิจัยขึ้นสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการส่งเสริมสตาร์ทอัพได้เติบโตสู่ตลาดอาหารระดับโลกต่อไป “การเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ได้ทำงานร่วมกับองค์กรผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลกอย่างซีพีเอฟ การได้เรียนรู้ประสบการณ์และทักษะจากผู้บริหารของบริษัท ร่วมสร้างสรรค์เมนูกับเชฟมากประสบการณ์ของซีพีเอฟ ตลอดจนได้มีโอกาสพัฒนาแนวคิดกับซีพีเอฟ เพื่อยกระดับการผลิตเป็นสินค้าวางจำหน่ายในตลาดต่อไปอีกด้วย” ดร.ลลานากล่าว ผลงานหรือโครงการร่วมกิจกรรมจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือก 3 โครงการเข้าร่วมสุดท้าย เพื่อนำเสนอทางออนไลน์แก่ผู้ร่วมงานประชุม Asia – Pacific Agri-Food Innovation Summit ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้  โดยจะประกาศผลหาโครงการชนะเลิศเพื่อมาร่วมพัฒนาอาหารสำหรับอนาคตกับซีพีเอฟ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://agrifoodinnovation.com/innovation-challenges-2021/

ยอดดับโควิด-19 ‘สหรัฐฯ’ จ่อแซงไข้หวัดใหญ่เมื่อ 100 ปีก่อน

สำนักข่าวซินหัว ระบุ สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ (ABC News) รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ คาดว่าจะสูงกว่าเหตุการระบาดใหญ่ในปี 1918 ภายในเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์นี้ “มีชาวอเมริกันราว 675,000 คนเสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช1เอ็น1 (H1N1) เมื่อปี 1918” รายงานระบุ “จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันมากกว่า 662,000 ราย เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ซึ่งหมายความว่าหากสหรัฐฯพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกราว 13,000 ราย ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก็จะมากกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อราว 1 ศตวรรษก่อน” ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 1,000 รายต่อวัน ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศเริ่มลดลงช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราการรับวัคซีนโดสแรกของชาวอเมริกันลดลงถึงร้อยละ 42.7 นับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. เป็นต้นมา

---

Post Views: 12