หนทางแห่งความพยายามของ ยอดมวยจอมเตะ “ซุปเปอร์เล็ก” สู่ศึกรีแมตช์ชิงบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ”

ย้อนรอยเส้นทางสู่การชิงบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งของยอดมวยจอมเตะ “ซุปเปอร์เล็ก” จากช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก่อนมาถึงศึกรีแมตช์ชิงบัลลังก์ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ซึ่งต้องอาศัยความพยายามอย่างหนักหน่วงที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

ยอดมวยจอมเตะจากเมืองบุรีรัมย์ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ถือเป็นหนึ่งในนักมวยไทยหัวกะทิของรุ่นฟลายเวต (135 ป.) ที่มีโอกาสได้ลองข้ามสายสู่เส้นทางคิกบ็อกซิ่งใน ONE ซึ่งเปิดโอกาสให้นักกีฬาสามารถข้ามสายกีฬาเพื่อพิสูจน์ความสามารถในศิลปะการต่อสู้แขนงอื่นได้

แน่นอนว่าการลงสนามคิกบ็อกซิ่งที่ไม่คุ้นเคยในเวทียิ่งใหญ่ระดับโลกเป็นงานท้าทายสำหรับ “ซุปเปอร์เล็ก” อยู่ไม่น้อย แต่แม้จะยากเย็นหรือต้องล้มกี่ครั้ง “ซุปเปอร์เล็ก” ก็ยังยืนหยัดกลับมา เพราะมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต คือเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

ก่อนที่ “ซุปเปอร์เล็ก” จะได้รีแมตช์นัดล้างตากับเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คนปัจจุบัน “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” ในศึก ONE FIGHT NIGHT 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ ที่จะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ที่จะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกาซึ่งตรงกับช่วงเช้า 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.66 เราจะพาย้อนความทรงจำเส้นทางสายคิกบ็อกซิ่งของ “ซุปเปอร์เล็ก” ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

เจ้าของฉายา “The Kicking Machine (เครื่องจักรนักเตะ)” สั่งสมประสบการณ์บนผืนผ้าใบมามากกว่า 100 ไฟต์ ในสายมวยไทย แน่นอนว่า “ซุปเปอร์เล็ก” ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักมวยไทยแถวหน้าของวงการ การันตีได้จากดีกรี “ยอดมวย” ถ้วยพระราชทาน แต่หากเป็นกติกาคิกบ็อกซิ่งแล้ว เขาคือหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ในเส้นทางนี้

หลังจากเปิดตัวกับ ONE และทำผลงานชนะ 3 ไฟต์รวดในกติกามวยไทย “ซุปเปอร์เล็ก” ได้โอกาสให้ลองชิมลางกติกาคิกบ็อกซิ่ง โดยประเดิมไฟต์แรกด้วยการเผชิญหน้ากับคู่ชกมากประสบการณ์อย่าง “ฟาห์ดี คาเล็ด” เมื่อเดือน ก.ย.63

สำหรับไฟต์แรกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง “ซุปเปอร์เล็ก” ยอมรับว่าเต็มไปด้วยความกังวล เนื่องจากยังไม่คุ้นเคยในกติกาประเภทนี้ที่มีข้อห้ามในเรื่องการใช้ศอกและในการปล้ำตีเข่า และกลัวจะทำผิดกติกา แต่ถึงอย่างนั้น “ซุปเปอร์เล็ก” ก็ทำผลงานได้ดีโดยสามารถชนะคะแนนคู่แข่งอย่างเป็นเอกฉันท์

ผลงานยอดเยี่ยมที่ผ่านมาบวกกับชัยชนะแรกในกติกาคิกบ็อกซิ่งส่งให้ “ซุปเปอร์เล็ก” กำใบผ่านทางไปเจอกับ “อิเลียส” เจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE ในเดือน ก.พ.64 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์โลกครั้งแรกของยอดมวยบุรีรัมย์

หลังจากสู้กันครบ 5 ยก กรรมการชูมือให้ “อิเลียส” นั่งครองบัลลังก์ต่อแบบค้านสายตาคนดู เข็มขัดแชมป์โลก ONE ที่อยู่แค่เอื้อมของ “ซุปเปอร์เล็ก” กลับหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา

“ผมมั่นใจว่าผมชนะในไฟต์นั้นครับ แต่เมื่อกรรมการตัดสินแบบนั้น ผมก็ยอมรับคำตัดสิน แต่ก็ยอมรับว่าผมเสียใจมาก เพราะผมตั้งใจมาก มันเป็นไฟต์ชิงแชมป์โลกครั้งแรกของผมใน ONE ด้วยครับ”

หลังจากต้องยอมจำนนต่อคำตัดสินของกรรมการ และจมอยู่กับคำถามที่ค้างคาใจนานข้ามคืน ก่อนที่ฟ้าจะเปิดอีกครั้ง เมื่อหัวเรือใหญ่ของ วัน แชมเปียนชิพ “นายชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประกาศให้มีการรีแมตช์โดยเร็วที่สุด ทำเอา “ซุปเปอร์เล็ก” มีแรงลุกขึ้นมาเตรียมตัวสางแค้น โดยตั้งใจจะเอาให้เด็ดขาด ไร้ข้อกังขาในครั้งหน้าแน่นอน

แต่รอจนแล้วจนรอดไฟต์ดังกล่าว ก็ไม่เกิดขึ้นเสียที เมื่อฝ่าย “อิเลียส” ขอถอนตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ไม่พร้อมขึ้นชก แต่ “ซุปเปอร์เล็ก” ยังคงรอการรีแมตช์ครั้งนั้นอย่างใจจดใจจ่อจนท้อใจและเกือบคิดที่จะถอย

ทว่าความทุ่มเทตั้งใจซ้อมให้พร้อมเสมอของ “ซุปเปอร์เล็ก” นั้นไม่สูญเปล่า เมื่อเขาถูกคัดเลือกเป็น 1 ใน 8 ขุนศึก ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ และไม่ทำให้เสียชื่อยอดมวยเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ทาอิกิ นาอิโตะ” และชนะน็อก “วอลเตอร์ กอนซาลเวส” แถมคว้าโบนัส 1.8 ล้าน กลับไปนอนกอด

ก่อนที่จะทะลุเข้ารอบชิงมาเจอคู่ปรับตลอดกาล “ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ และเป็น “ซุปเปอร์เล็ก” ที่ออกอาวุธเข้าเป้ามากกว่าเบียดเอาชนะไปได้ แต่ก็มีเรื่องให้น่าเสียดายอีกครั้งเมื่อเขาตกตาชั่งก่อนการแข่งขัน ทำให้ไม่มีสิทธิ์ชิงเข็มขัดเงิน

แม้จะชวดเข็มขัดเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่ “ซุปเปอร์เล็ก” ก็ได้โอกาสสุดพิเศษมาชดเชยเมื่อ ONE จัดคิวให้เขาลงศึกรีแมตช์ชิงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งกับ “อิเลียส” ให้ในวันที่ 14 ม.ค.66 ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกไฟต์ทำให้ “ซุปเปอร์เล็ก” หึกเหิมสุดขีด เพราะเขาจะได้โชว์ฝีไม้ลายมือต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทย ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่าอีกด้วย

ศึกในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ “ซุปเปอร์เล็ก” จะได้พิสูจน์อีกครั้งว่าความพยายามจะส่งให้เขาสามารถผงาดเหนือบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวตได้สำเร็จหรือไม่ เราจะได้รู้กันในไม่กี่อึดใจ

แฟนกีฬาสามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของศึก ONE FIGHT NIGHT 6 ได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, อินสตาแกรม ONEChampTh โดยสามารถจองบัตรเข้าชมที่ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันนี้ในราคาเริ่มต้น 150 บาท รีบจองก่อน ได้ที่นั่งชัดถนัดตาก่อน คลิกที่ลิงก์นี้ bit.ly/OFN6BKK

อ่านเพิ่มเติม:

• สรุปผลและประมวลภาพ ศึก ONE 164: โจชัว vs จาร์เร็ด
• อัดเพิ่มอีก 3 คู่ให้คนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ฉลอง ONE กลับมาจัดใหญ่ที่กรุงเทพฯ 14 ม.ค.66
• “รถถัง” ยังไม่พอ ตะลุยสายคิกบ็อกซิ่งลุ้นชิงเข็มขัดแชมป์ระหว่าง “เอ็นนาชิ” หรือ “ซุปเปอร์เล็ก”

Source