เปิดโปรไฟล์ เสี่ยโบ๊ท เจ้าของค่ายมวย ผู้ที่ดาราสาว พราว การัญชิดา คุกเข่าขอแต่งงาน

เสี่ยโบ๊ท คือใคร เปิดประวัติ เสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี ผู้ที่ดาราสาว พราว การัญชิดา คุกเข่าขอแต่งงาน มาเปิดวาร์ปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้กัน

เป็นข่าวบันเทิงชวนชื่นมื่นอีกข่าวหนึ่งก็ว่าได้ เมื่อดาราสาวสวย พราว การัญชิดา เพิ่งเข้าประตูวิวาห์หวานกับ เสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี โปรโมเตอร์มวยไฟแรง แฟนหนุ่มนอกวงการ โดยฮือฮายิ่งขึ้นเมื่อสาวพราวได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอเป็นคนคุกเข่าขอฝ่ายชายแต่งงานเอง งานนี้ทำเอาคนเบนความสนใจไปที่ฝ่ายเจ้าบ่าวว่าเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงคว้าหัวใจนักแสดงสาวไปครองได้ กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปทำความรู้จักประวัติ เสี่ยโบ๊ท กันสักหน่อยว่าเขามีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง

ประวัติ เสี่ยโบ๊ท

สำหรับ เสี่ยโบ๊ท มีชื่อจริงว่า ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เกิดวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2530 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นบุตรชายของ วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์แห่งสนามมวยเวทีลุมพินี และมีน้องสาว 1 คน ด้วยความที่เห็นคุณพ่อทำงานเกี่ยวกับมวยไทยมาโดยตลอด จึงทำให้เกิดความชื่นชอบและตัดสินใจเจริญรอยตามด้วยการเป็นโปรโมเตอร์มวยเช่นกัน ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักในนาม เสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี

จุดเริ่มต้นในเส้นทางมวย

เสี่ยโบ๊ทติดตามคุณพ่อเข้าสนามมวยและมีความชื่นชอบในมวยไทยตั้งแต่เด็ก จนครั้งหนึ่งเขาเคยเสนอแนวคิดให้มีการแข่งขันมวยไทยแบบ 2 รุม 1 โดยจัดให้แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ พบกับคู่ชกอย่างเพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป และสะเก็ดดาว เพชรพญาไท ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้รับการชื่นชมจากทรงชัย รัตนสุบรรณ และทำยอดเข้าชมรายการดังกล่าวที่ 3 ล้านบาท นอกจากนี้เขายังเคยจัดคู่มวยในการแข่งขันมวยไทย อาทิ ศึกจ้าวมวยไทย ที่เวทีมวยอ้อมน้อย และศึกเพชรยินดี ที่สนามมวยเวทีลุมพินี จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งจากเวทีมวยราชดำเนินให้เป็นโปรโมเตอร์มวยไทยขณะที่มีอายุได้ 25 ปี ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 นับเป็นโปรโมเตอร์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังได้รับรางวัลโปรโมเตอร์ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี วันนักกีฬายอดเยี่ยมปี 2559 อีกด้วย ปัจจุบันเขาก็ได้เป็นโปรโมเตอร์ของค่ายเพชรยินดีเต็มตัวแล้ว

เส้นทางการเมืองของเสี่ยโบ๊ท

นอกจากเป็นโปรโมเตอร์มวยแล้ว เสี่ยโบ๊ทยังเคยลงเล่นการเมืองด้วย โดยได้ร่วมงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย และลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 ด้วยการชูภาพลักษณ์เป็นผู้ผลักดันและส่งเสริมวงการมวยไทยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ทว่าครั้งนั้นเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพียง 12 ที่นั่ง จึงทำให้เสี่ยโบ๊ทตัดสินใจกลับไปดำเนินกิจการมวยต่อ

เคยลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์มวย

ย้อนกลับไปช่วงที่โควิด 19 ระบาดแรก ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่วงการมวยไทยหยุดชะงัก ตอนนั้นเสี่ยโบ๊ทมักออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปวงการมวยไทยอยู่บ่อยครั้งผ่านสื่อต่าง ๆ รวมถึงเป็นตัวแทนโปรโมเตอร์เคลื่อนไหวเพื่อให้เวทีราชดำเนินลดค่าเช่าเวทีเพื่อลดภาระของโปรโมเตอร์ แต่ผู้บริหารของเวทีราชดำเนินไม่สนองตอบ ส่งผลให้เสี่ยโบ๊ทและโปรโมเตอร์ในเครือเพชรยินดีที่เป็นโปรโมเตอร์เวทีราชดำเนิน 2 คน ประกาศลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563 แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2565 เขาก็กลับมาเป็นโปรโมเตอร์เวทีราชดำเนินอีกครั้ง โดยการทาบทามของกลุ่มทุนเอกชนใหม่ที่เข้ามาร่วมบริหารเวทีราชดำเนิน

เจ้าบ่าวป้ายแดง ตำนานที่เจ้าสาวคุกเข่าขอแต่งงาน

เสี่ยโบ๊ทได้คบหาดูใจกับนักแสดงสาว พราว การัญชิดา มาเป็นเวลา 3 ปี โดยเขาเปิดเผยว่าหลงรักสาวพราวจากการดูละครเรื่อง กรงกรรม จนกระทั่งส่งข้อความไปยังอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ แต่สาวเจ้าไม่ตอบเลยเป็นเวลา 1 ปี จนกระทั่งได้ติดต่อผ่านเพื่อนและเริ่มเปิดใจคุยกัน ก่อนที่เสี่ยโบ๊ทจะปิดอะแควเรียมที่เกาหลีใต้ คุกเข่าขอพราวแต่งงานเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 แต่สาวพราวยังรู้สึกว่าไม่เติมเต็ม เพราะไม่มีครอบครัวของเธออยู่ด้วย และเธอยังไม่ได้ให้แหวนฝ่ายชาย จึงเป็นที่มาของการที่ พราว การัญชิดา คุกเข่าขอเสี่ยโบ๊ทแต่งงานอีกครั้งดังที่เป็นข่าว ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้เข้าพิธีหมั้น รดน้ำสังข์ และยกน้ำชา เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ก่อนที่จะจัดงานฉลองมงคลสมรสในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2566

และนี่ก็คือประวัติของเสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี โปรโมเตอร์มวย เจ้าบ่าวของนักแสดงสาว พราว การัญชิดา เรียกว่านอกจากจะหล่อแล้วยังไฟแรงอีกด้วย